นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ถึงแม้วิกฤติการณ์ด้านการเงินของโลก ในช่วงสองปีที่ผ่านมาจะเริ่มทรงตัว และเศรษฐกิจ กำลังจะกลับมาขยายตัวได้ใหม่ก็ตาม แต่การแก้ปัญหาของผู้กำหนดนโยบายในช่วงที่ผ่านมา มุ่งเน้นที่การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว แต่ไม่ได้แก้ไขที่ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน
และหากไม่มีการแก้ที่ระดับพื้นฐาน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาแบบเดิมได้อีกในอนาคต ส่วนนายโรเบิร์ต โซลลิค ผู้อำนวยการใหญ่ของธนาคารโลกกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่นจีนและอินเดีย มีบทบาทที่โดดเด่นขึ้นมา และอินเดียสามารถรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ได้ค่อนข้างดี และมีส่วนเกื้อหนุนต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของโลก จนคาดได้ว่าอินเดียจะมีฐานะเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของโลก ในเวลาต่อไป ผู้อำนวยการใหญ่ของธนาคารโลกกล่าวด้วยว่าในอดีตนั้น ผู้บริโภคในสหรัฐมีบทบาทสำคัญ ในการกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก แต่ในครั้งนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังเช่นเดิม และว่าประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่ต่างๆ เช่นจีนและอินเดีย คงจะเข้ามามีบทบาทเรื่องนี้มากกว่าสหรัฐในปัจจุบัน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ
