ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้นำประเทศต่างๆ กำลังเตรียมเข้าร่วมการประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศโลก 2 วันสุดท้าย


ขณะนี้การประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพบรรยากาศโลก ที่กรุงโคเปนเฮเก้น กำลังเดินทางมาถึงจุดสำคัญที่สุดแล้ว เมื่อบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ มากกว่า 10 ประเทศกำลังเตรียมเข้าร่วมในการประชุม 2 วันสุดท้าย โดยเป้าหมายหลักคือการพยายามผลักดัน ให้เกิดข้อตกลงฉบับใหม่ หรืออย่างน้อยก็โครงร่างของข้อตกลง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการต่อสู้กับปัญหาภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคและความแตกต่างสำคัญๆที่ขัดขวางการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวยังคงมีอยู่

เมื่อการประชุมที่กรุงโคเปนเฮเก้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรรดาผู้แทนในการประชุมต่างรับทราบถึงข้อความสำคัญที่ว่า เวลาในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน กำลังหมดลงเรื่อยๆ และในระหว่างช่วงวันท้ายๆ ของการเจรจาครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก นาย Lars Lokke Rasmussen ก็ยังคงเน้นย้ำถึงข้อความที่ว่านั้น โดยกล่าวว่าทั่วโลกต่างกำลังคาดหวัง ให้ที่ประชุมบรรลุข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพบรรยากาศโลกให้ได้

ในสัปดาห์นี้ บรรดารัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของนานาประเทศ ได้เดินทางมาสมทบที่กรุงโคเปนเฮเก้น ในขณะที่ผู้นำประเทศต่างๆ ก็กำลังเดินทางมาร่วมในการประชุม 2 วันสุดท้าย แต่แม้จะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่อุปสรรคและความแตกต่าง ที่ขัดขวางการบรรลุข้อตกลงก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งก็เป็นความขัดแย้งเรื่องเดิมระหว่างประเทศซีกโลกเหนือ กับซีกโลกใต้ และระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน ซึ่งต่างกล่าวหาว่าใครเป็นฝ่ายผิด และใครคือผู้ถูกกระทำ ดังเช่นคำแถลงของประธานาธิบดีซิมบับเว่ นาย Robert Mugabe

ประธานาธิบดีซิมบับเว่ระบุว่า เวลานี้ที่ประชุมกำลังรับมือกับผลประโยชน์ที่ถูกควบคุม และระบบเศรษฐกิจที่ถูกครอบครอง ซึ่งแฝงมากับกระบวนทัศน์การพัฒนา ที่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม และความต้องการชี้นำโลกแบบผิดๆ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแนวทางอื่นๆ จากประเทศแถบอาฟริกาที่เสดงให้เห็นว่า อาจมีการยินยอมลดจำนวนเงินที่ประเทศเหล่านั้น ต้องใช้ในการแก้ไขกับปัญหาภาวะโลกร้อนลง และทางสหรัฐได้สัญญาว่า จะให้เงินสนับสนุนมูลค่า 1 พันล้าน – 3 พัน 5 ร้อยล้านดอลล่าร์ เพื่อใช้ในกองทุนลดปริมาณก๊าซ ที่ก่อให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจก อันเนื่องมาจากการตัดไม้ทำลายป่า

ปัญหาความไม่ลงรอยที่ยังคงมีอยู่นั้น รวมถึงเรื่องการยืดเวลาการใช้พิธีสารเกียวโต ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1997 ออกไปจากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดลงในปี 2012 โดยพิธีสารเกียวโตกำหนดไว้ว่า ประเทศอุตสาหกรรมที่ร่วมลงนาม ต้องลดปริมาณก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฎการณ์เรือนกระจก แต่ไม่ได้กำหนดว่าประเทศกำลังพัฒนา ต้องทำอย่างเดียวกัน และขณะนี้ บรรดาประเทศกำลังพัฒนาและประเทศยากจนต่างต้องการให้ยืดเวลาการใช้พิธีสารเกียวโตออกไปพร้อมๆ กับให้มีข้อตกลงในระยะยาวฉบับที่ 2 ควบคู่กันไปด้วย ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว ต้องการให้ทีข้อตกลงฉบับใหม่เพียงฉบับเดียวที่กำหนดให้ทุกประเทศเข้าร่วมในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอน อีกทั้งยังมีคำถามว่าประเทศใดควรเป็นผู้ลดมลพิษ ปริมาณเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายแค่ไหน และใครจะเป็นผู้จ่ายเงินนั้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือข้อกังขาว่าการประชุมครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จในการจัดทำข้อตกลงแก้ไขภาวะโลกร้อนได้หรือไม่ ในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า อาจจะมีการตกลงในหลักการเพื่อร่างโครงร่างของพิธีสารฉบับใหม่ขึ้นก่อน ก่อนจะลงลึกถึงรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อๆ ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นาย Yvo de Boer เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสภาพบรรยากาศโลก ขององค์การสหประชาชาติยังคงเชื่อว่า การประชุมครั้งนี้จะสามารถประสบความสำเร็จได้ โดย 24 ชั่วโมงต่อจากนี้คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

เวลานี้ บรรดาผู้นำประเทศต่างๆกำลังทยอยเดินทางมายังกรุงโคเปนเฮเก้น เพื่อร่วมประชุมในช่วง 2 วันสุดท้าย และเพื่อพิจารณาว่าความแตกต่างของแต่ละประเทศนั้น จะสามารถจัดการแก้ไขให้กลมกลืนเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงฉบับใหม่ได้หรือไม่ สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัค โอบาม่า มีกำหนดจะขึ้นกล่าวปราศรัย ต่อที่ประชุมในวันศุกร์นี้ซึ่งเป็นวันปิดการประชุม


XS
SM
MD
LG