ลิ้งค์เชื่อมต่อ

อาคารหลังใหม่ ของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นครนิวออร์ลีนส์


พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นครนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนาสร้างอาคารใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง โดยเสียค่าก่อสร้างไปหกสิบล้านเหรียญสหรัฐ

ในอาคารหลังใหม่ซึ่งเปิดให้คนเข้าชมได้แล้วนี้ มีที่แสดงดนตรีหนึ่งแห่ง มีร้านอาหารแห่งหนึ่งและโรงภาพยนตร์ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์กันเอาไว้ว่า เป็นประสพการณ์สื่อหลายหลาก ภาพยนตร์เรื่อง " Beyond All Boundaries" ยาว 35 นาทีฉายให้ชมกันที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งนี้เท่านั้น ผู้สี่อข่าว วอยซ์ ออฟ อเมริกา Gregg Flakus รายงานจากนครนิวออร์ลีนส์ว่า การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Beyond All Boundaries" เป็นการนำฮอลลีวูด ไฮเทค และประวัติศาสตร์มาผสมผสานกัน

ดาราภาพยนตร์ชื่อดัง ทอม แฮ๊งส ผู้อำนวยการสร้างและเป็นผู้บรรยายประกอบของภาพยนตร์ใหม่ ที่อาศัยสื่อหลายหลากในการนำเสนอเรื่องนี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉายบนจอใหญ่มหึมา แสง เทคนิคพิเศษต่างๆ และฉากจะปรากฎให้เห็นในโรงภาพยนตร์ขณะที่ภาพยนตร์ฉายต่อไปเรื่อยๆ ผู้ชมจะซึมซับเนื้อเรื่อง และประสพการณ์เกี่ยวกับแนวรบทุกแนวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ชมจะได้ฟังคำบอกเล่าของทหารบก ทหารเรือ นาวิกโยธิน ผู้สื่อข่าวสงครามและผู้นำทางการเมืองต่างๆ ซึ่งใช้เสียงของดาราชื่อดังๆ รวมทั้งแบรด พิตต์ เควิน เบค่อน แพตริเชีย คลากสันและเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์

ทอม แฮ๊งส เคยรับบทเป็นนายทหารบกยศร้อยเอก ผู้บังคับบัญชาของทหารหมวดหนึ่งตอนที่มีการบุกขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีในภาพยนตร์เรื่อง "Saving Private Ryan" ที่ฉายเมื่อปีพุทธศักราช 2541 ทอม แฮ๊งสเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนทหารผ่านศึก และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้ เขาสละเวลาและพยายามโน้มน้าวให้คนสนับสนุนเรื่องนี้ ทอม แฮ๊งส เกิดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติไปแล้ว 10 ปี แต่เขากล่าวว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อเขามากทีเดียว

ทอม แฮ๊งสกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ตอนที่ผมกำลังเจริญวัย ผู้ใหญ่ที่ดูแลผมทุกคนผ่านสงคราม มีประสพการณ์เกี่ยวกับสงครามไม่มากก็น้อย บางคนมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดสงคราม และแต่ละคนเล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับยุคนั้นให้ฟัง"

แต่ชนรุ่นต่อๆ มาไม่มีประสพารณ์แบบทอม แฮ๊งส และรู้เรื่องเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 น้อยมากๆ คุณ นิก มัลเล่อร์ ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหาร ของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองกล่าวว่า ที่มีการฉายภาพยนตร์เรื่องนั้นให้ชมกันก็เพราะเหตุที่ว่านี้

คุณนิก มัลเล่อร์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "หนุ่มสาวในทุกวันนี้ เกิดมาในยุคของเทคโลยีเฟื่องฟู พวกเขาเรียนมาแบบนั้น และด้วยเหตุนี้การที่จะให้พวกเขาซึมซับเรื่องราวของสงครามโลกทั้งหมดได้ ก็จะต้องใช้ภาพ แสง และเสียง และทำให้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจะๆ เลย"

แต่นักศึกษาด้านวารสารศาสตร์ทั้งชาย และหญิงกลุ่มหนึ่งที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งนี้ ลงผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ทบล็อกออนไลน์บอกว่า พวกเขาประทับใจทหารผ่านศึกแต่ละคนที่พบ และเรื่องที่พวกเขาเล่าให้ฟังเพราะฟังแล้วไม่น่าเชื่อ และจับใจจนแทบอยากจะร้องไห้

ที่พิพิธภัณฑ์สถานที่ว่านี้ มีทหารผ่านศึกอาสาสมัครมาช่วยงานหลายคน คนหนึ่งเป็นนาวิกโยธินชื่อ เบิร์ต สโตลเยียร์ วัย 90 ปี คุณเบิร์ต สโตลเยียร์อาสามาคุยกับผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งนี้ เขาเห็นเหตุการณ์ตอนที่ญี่ปุ่นโจมตีอ่าวเพิร์ล

เขากล่าวว่า "ญี่ปุ่นทิ้งระเบิด ยิงตอร์ปิโดถล่ม เรือระเบิด เรือจม ทหารเรือและนาวิกโยธินลอยคออยู่ในน้ำภายในช่วงเวลาสองชั่วโมง"

ตอนนี้ในสหรัฐเหลือทหารผ่านศึกอยู่สองสามล้านคน และกำลังล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็วในอัตราวันละ 900 กว่าคน แต่เสียงของพวกเขานั้นนำมาใช้ประกอบในวิดิทัศน์หลายม้วน ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งนี้ ฉายให้ชม และกำลังมีการเพียรพยายามดำเนินงานบันทึกเสียงเหล่านั้นไว้ต่อไปอีก คุณนิก มัลเล่อร์ ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารของ

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งนี้บอกว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะแสดงให้เห็นว่าว่าสงครามเป็นเรื่องวิเศษวิโสหรือคุยโม้โอ้อวดถึงชัยชนะของฝ่ายพันธมิตร แต่ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งคร่าห์ชีวิตคนไปหกสิบห้าล้านกว่าราย

ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 มีแผนการจะสร้างอาคารใหม่อีก 3 หลังภายในปีพุทธศักราช 2558


XS
SM
MD
LG