ทุกๆ ฤดูร้อน นักวิ่งจากทั่วโลกเข้าแข่งวิ่งทรหด "Badwater Ultramarathon" ระยะทาง200 กิโลเมตร ข้ามทะเลทรายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางความร้อนแผดเผา ราว 55 องศาเซลเชียส
การแข่งวิ่ง Badwater Ultramarathon เป็นการแข่งขันประจำปีในช่วงฤดูร้อนที่บริษัท Adventure CORPS, Inc. ผู้สร้างการแข่งขันแบบทรหดประเภทต่างๆ ขึ้นมาเป็นผู้จัด ตามกติกานั้น ผู้เข้าแข่งจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 60 ชั่วโมงในการวิ่งระยะทางราว 200 กิโลเมตร ผ่านทะเลทราย ขึ้นเขาลงห้วยจากเมือง Badwater ในแถบ Death Valley ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเกือบ 90 เมตร ไปให้ถึงยอดเขา Mt. Whitney ในแถบแนวเขา Sierra Nevada ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเหรียญตำแหน่งแชมป์ประจำปี ส่วนผู้ที่ทำเวลาได้ดี คือไม่ถึง 48 ชั่วโมง จะได้รับหัวเข็มขัดรับรองความสามารถ
การแข่งวิ่งทรหด Badwater Ultramarathon ครั้งที่ 32 เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม มีนักวิ่ง นักกีฬา และผู้ต้องการทดสอบความสามารถ ความทรหดอดทนของตนเองจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก 17 ประเทศเข้าแข่ง 86 คน คนสูงวัยที่สุดอายุ 67 ปี และคนอ่อนวัยที่สุดอายุ 19 ปี มีผู้วิ่งถึงจุดหมายปลายทาง 75 คน และที่ถึงที่หมายภายในเวลา 48 ชั่วโมง มี 66 คน
แชมป์ปีนี้ ตือ Marcos Farinazzo หนุ่มใหญ่วัย 40 ปีจากบราซิล ผู้ทำเวลาได้ 23 ชั่วโมง 39 นาที แชมป์ฝ่ายหญิงคือ Jamie Donaldson อายุ 34 ปีจากรัฐโคโลราโด ทำเวลาได้ 27 ชั่วโมง 20 นาที มาเป็นอันดับ 5 ของผู้ถึงเส้นชัยทั้งหมด
ส่วนนักวิ่ง 2 คนที่ผู้สื่อข่าว VOA ไปคุยด้วยนั้น วิ่งถึงเส้นชัยทั้งคู่ คนหนึ่งชื่อ Charlie Engle จากรัฐนอร์ธคาโรไลนา อายุ 46 ปี มาเป็นอันดับ 4 ทำเวลา 25 ชั่วโมง 45 นาที
Charlie ผู้เคยตกอับจากการทำร้ายตัวเอง เพราะติดยาเสพติดโคเคนนาน 10 ปี ชีวิตแปรผันละทิ้งยาเสพติดไว้เบื้องหลังเมื่อพบกับสิ่งเสพติด อีกแบบหนึ่ง คราวนี้เป็นการบำรุงตัวเอง คือ การวิ่ง Charlie เข้าแข่งเป็นครั้งที่ 6 เขายอมรับความเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด ในการวิ่งแข่งทรหดนี้ เพราะเขาเห็นว่าเป็นสิ่งเตือนใจ ในการต่อสู้กับชีวิตล่วงพ้นจากการติดยาก้าวหน้าสู่ความสำเร็จในการวิ่งแข่งที่จัดว่าทรหดที่สุดในโลกรายการนี้ ถึงเขาจะไม่ชนะแต่ก็ได้รับสิ่งที่เขาถือว่าเป็นหลักหมายในชีวิต และตั้งใจจะเข้าแข่งอีก
อีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มน้อยวัย 19 ซึ่งอายุน้อยที่สุดในการแข่งขันคราวนี้ Nickademus Hollon จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ความเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาอ่อนหัดของเขา ทำให้น้อยคนคิดว่าเขาจะวิ่งได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะการแข่งขันนี้ต้องอาศัยความสามารถ และความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ Nick มีความมั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะวิ่งถึงเส้นชัย เขามาเป็นอันดับ 18 ด้วยเวลา 33 ชั่วโมง 21 นาที สำหรับ Nick นั้น การเข้าแข่งครังนี้ เป็นเพียงการเริ่มต้นของการติดการวิ่ง เขาต้องการจะสำรวจความสามารถของตนเอง และบอกว่าจะกลับมาแข่งอีกในปีหน้า
ก็เป็นเรื่องของคนที่ต้องการพิสูจน์ความทรหด ด้วยการวิ่งทนจริงๆ ไม่ใช่ทนวิ่ง
