การประชุมประจำปี ของสมาคมประชาติเอเชีย ตอ.เฉียงใต้ ยุติลงแล้ว

การประชุมประจำปีของสมาคมประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุติลงแล้ว ประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าภาพกล่าวว่า การประชุมที่ยุติลงไป จะนำไปสู่การรวมตัวกันมากยิ่งขึ้นในภูมิภาค

แต่การประชุมดังกล่าว แก้ปัญหาของภูมิภาคสองปัญหาคือเรื่องพม่า และเกาหลีเหนือได้น้อยเหลือเกิน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย กษิต ภิรมย์ กล่าวตอนที่การประชุมรวมสี่วันของสมาคมอาเซียนยุติลงว่า บรรดาผู้แทนตกลงกัน เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่สำคัญๆ ได้ และข้อตกลงเหล่านั้น จะปูทางให้สมาคมอาเซียน ทรงประสิทธิภาพ และมีหลักมีเกณฑ์มากขึ้น และช่วยเพิ่มพูนความร่วมมือกันในภูมิภาค

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย กษิต ภิรมย์ กล่าวไว้ตอนนี้ว่า “ จะมีการเพิ่มความร่วมมือกันต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่ว่าสมาคมอาเซียน จะสามารถตอบโต้การท้าท้ายที่ต้องแก้ไข โดยรีบด่วนทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิกฤติกาลการเงิน และเศรษฐกิจ เรื่องอาหาร และความมั่นคงปลอดภัยด้านพลังงานและโรคระบาด” ท่านรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สมาคมอาเซียนยินดีต้อนรับ การที่สหรัฐกลับมาผูกพันกับภูมิภาคนี้ใหม่ หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกัน ฮิลลารี คลินตัน ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ และความร่วมมือ และว่าการที่สมาคมอาเซียนตกลงให้ตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน ของสมาคมอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรก จะช่วยเป็นพื้นฐานสำหรับการส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิ

องค์กรสิทธิมนุษยชน ไม่มีอำนาจที่จะลงโทษรัฐที่ละเมิดเรื่องนั้น แต่คาดหมายกันว่า องค์กรจะมีอำนาจมากขึ้นในอนาคต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย สตีเฟน สมิธ กล่าวว่า รัฐบาลของหลายประเทศ ในบรรดารัฐบาลของยี่สิบเจ็ดประเทศ ที่มาร่วมการประชุมแสดงความวิตกห่วงใย เกี่ยวกับเรื่องพม่า และเกาหลีเหนือ เขากล่าวว่า ถึงแม้พม่าและเกาหลีเหนือ จะดื้อดึงไม่แยแส ต่อเรื่องที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องการให้ทำก็ตาม แต่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศ แสดงความคิดเห็นไว้อย่างกระจ่างชัด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย สตีเฟน สมิธ กล่าวไว้ตอนนี้ว่า “ แรงกดดันของประชาคมระหว่างประเทศแห่งนี้ เพิ่มน้ำหนักและกดดันประเทศทั้งสองได้ และขณะนี้ สิ่งที่เราต้องการจากทั้งสองประเทศ ก็คือคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนั้น ทั้งในแง่ของการที่เกาหลีเหนือ เข้าร่วมการเจรจาระหว่างหกฝ่าย และการที่ทางการพม่ายอมอนุญาตให้นางออง ซาน ซู จี เข้าร่วมในกระบวนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หยาง เจี๋ยฉือ กล่าวว่าไม่ควรด่วนสลัดเรื่องการประชุมระหว่างหกฝ่าย ซึ่งรวมทั้งจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้และสหรัฐทิ้งไปเสียเลย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หยาง เจี๋ยฉือกล่าวไว้ตอนนี้ว่า “ ถึงแม้การเจรจา จะประสพความยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ไม่ควรมีใครมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่า มีการบรรลุความก้าวหน้าไปได้มากทีเดียวในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นเราควรมองการณ์ระยะยาว และในแง่ยุทธศาสตร์ และดำเนินงานเพื่อให้มีการกลับมาเจรจา ระหว่างหกฝ่ายกันใหม่โดยเร็ว จีนติดต่อกับประเทศอื่นๆ ที่ร่วมการประชุมระหว่างหกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญมาก”

ส่วนนาย รี ฮัง-ซิก ผู้แถลงข่าวของคณะผู้แทนเกาหลีเหนือ ที่มาร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมอาเซียน บอกปัดเรื่องการเจรจาหกฝ่ายอย่างหนักแน่น ทั้งๆ ที่มีการให้สัญญาว่า จะมีการให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ ถ้าเกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ของตน

นาย รี ฮัง-ซิก กล่าวว่า สหรัฐเป็นฝ่ายทำให้การเจรจาระหว่างหกฝ่ายล่มสลายไป

เขากล่าวไว้ตอนนี้ว่า “ความช่วยเหลือชุดที่สัญญาไว้เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ และวิฤติกาลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น ก็เนื่องมาจากนโยบายที่มุ่งร้ายของสหรัฐนั่นเอง”