เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ 13 ชาติทางเอเชีย รวมทั้งญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งมาถกประเด็นเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A-H1N1 ที่กรุงเทพมหานคร เรียกร้องให้เอเชียคงระมัดระวังเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งๆ ที่มีสัญญาณส่อว่าเชื้อไวรัสอาจไม่ร้ายแรง อย่างที่เคยกลัวกันในตอนแรก
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ประชาชนสองพันกว่าคน ติเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A-H1N1 แต่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดมาจากเม็กซิโก มิได้ระบาดอย่างใหญ่โตในเอเชีย
การประชุมสองวันที่กรุงเทพมหานครนั้น มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของภาคีอาเซียนสิบประเทศ จีน ญี่ปุ่น และของเกาหลีใต้ มาร่วมเพื่อกำหนดแผนสำหรับการร่วมมือกัน ถ้าเชื้อไข้หมัดใหญ่สายพันธุ์ A-H1N1 เกิดมาระบาดในเอเชีย
หัวหน้าคณะประสานงานด้านไข้หมัดใหญ่ เดวิด นาบาโร แสดงความมั่นใจว่าเอเชียจะรับมือ กับวิสัยที่อาจมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A-H1N1 ได้ เนื่องจากเอเชียได้ประสบการณ์ จากการที่โรคซาร์ส เคยระบาดเมื่อปีพุทธศักราช 2546
เขากล่าวไว้ว่า "เอเชีย ซึ่งเป็นที่ที่พร้อมรับการระบาดได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมพร้อมหลายๆ ด้าน เขามั่นใจว่าโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอเชียนั้น ขณะนี้มีความพร้อมในการรับมือ กับวิสัยที่อาจเกิดการระบาดนั้น ดีกว่าเมื่อ 5 ปีก่อนมากทีเดียว"
บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มีสัญญาณส่อว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A-H1N1 นี้ อาจร้ายแรงน้อยกว่าที่กลัวกันตั้งแต่แรก
รองผู้อำนวยการของศูนย์การควบคุม และการป้องกันโรคของสหรัฐ แอนน์ ชูชัตกล่าวว่า เกือย 60% ของคนที่ติดเชื้อ อายุต่ำกว่า 18 ปี และส่วนมากไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์รักษา และว่า ตามการประเมิน ปัญหาสำคัญร้ายแรงปัญหาหนึ่งก็คือ การที่เราคงรู้สึกกันต่อไปว่า ไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวไม่รุนแรงเหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในเม็กซิโกเคยรายงานไว้แต่เดิมคุณแอนน์ กล่าวต่อไปว่า เชื้อไวรัสดูเหมือนจะมีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ที่ระบาดตามฤดูกาล โดยผู้ป่วยมีอาการต่างๆ กัน ตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงขั้นรุนแรงมาก แต่ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยที่ทำให้มองการณ์ไปในทางดีก็ตาม แต่ผู้ช่วยผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลกเกอิจิ ฟูกูดะ กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "เห็นได้ชัดว่า อาการของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวมีต่างๆ กันไป แต่ไม่ทราบอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับวิสัยของความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ คาดว่าบรรดา รมต.สาธารณสุขจะตกลงกันเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ ที่ให้มีการร่วมมือกันมากขึ้น การทำให้วางใจได้ว่า ยามีปริมาณเพียงพอกับความต้องการ การช่วยเหลือในการข้ามพรมแดน และการดำเนินงานขั้นต่างๆ เพื่อจำกัดวงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการระบาดใดๆ ของไข้หวัดใหญ่
