ปัญหาเรื่องโจรสลัดนอกชายฝั่งทะเลของโซมาเลียที่เป็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้จะไม่จบลงอย่างง่ายๆ พร้อมกับการช่วยกัปตันเรือสินค้าคนอเมริกันออกมาได้
International Maritime Bureau หรือสำนักงานการเดินเรือทะเลระหว่างประเทศ เรียกชื่อย่อว่า IMB ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามเรื่องอาชญากรรมในท้องทะเล กล่าวว่า ทะเลนอกชายฝั่งประเทศโซมาเลีย รวมถึงอ่าวเอเดน เป็นบริเวณอันตรายมากที่สุดในโลกเวลานี้ สำหรับการเดินเรือทะเล
IMB กล่าวว่า ปีที่แล้วเป็นปีที่พวกโจรสลัดทำงานได้ผลมากที่สุด ตามตัวเลข มีเรือ 111 ลำถูกโจมตีในบริเวณดังกล่าว ในจำนวนนี้ 42 ลำถูกจี้บังคับไป และลูกเรือรวมทั้งหมด 815 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน แต่นักวิเคราะห์บอกว่า ถ้าแนวโน้มดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง ตัวเลขปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงวันที่ 14 เมษายนนี้ เรือ 78 ลำถูกโจรสลัดโจมตี 18 ลำถูกจี้บังคับไป และลูกเรือถูกจับไปเป็นตัวประกันแล้ว 334 คน
ปัญหาก็คือ เส้นทางเดินเรือดังกล่าวมีความสำคัญมาก เพราะเชื่อมต่อมหาสมุทรอินเดียกับทะเลแดง ทะเลเมดิเตอเรเนียน และยุโรปโดยผ่านทางคลองสุเอซ ในแต่ละปี มีเรือเดินทางผ่านน่านน้ำดังกล่าวราวๆ สองหมื่นลำ บรรทุกสินค้าสำหรับการค้าระหว่างยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชียมากถึง 80% และขนส่งน้ำมันประมาณ 12% ของน้ำมันโลก
นักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกันนอกประจำการ อย่างพันเอก Ralph Peters บอกว่า วิธีทำงานของพวกโจรสลัด คือการมีเรือแม่ที่เป็นตัวกลางหาเป้าโจมตีให้
นักวิเคราะห์ผู้นี้กล่าวว่า เมื่อเรือแม่หาเป้าได้แล้ว ก็จะส่งเรือเร็วจากเรือแม่ พร้อมด้วยโจรสลัดถืออาวุธปืนกล หรือแม้กระทั่งจรวดประทับบ่ายิง อย่าง RPG-7 ไปที่เรือสินค้า และข่มขู่หรือโยนตะขอเกี่ยว และบุกขึ้นเรือแบบที่เห็นกันในหนังสมัยโบราณกันเลย
พันเอก Ralph Peters ให้ความเห็นว่า ที่โจรสลัดทำงานได้สำเร็จก็เพราะลูกเรือสินค้าไม่มีอาวุธ และที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะปัญหาเรื่องการประกัน บริษัทประกันเห็นว่า การจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อเรือหรือสินค้า จะแพงกว่าการจ่ายเงินค่าไถ่เรือ และลูกเรือสักล้านหรือสองสามล้านดอลล่าร์ให้กับโจรสลัด
แต่ผู้เชี่ยวชาญการรักษาความปลอดภัย ในการเดินเรือของบรรษัท RAND คุณ Peter Chalk บอกว่า ถ้าลูกเรือถืออาวุธ ก็จะเป็นการกระตุ้นหนุนให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นได้
ผู้เชี่ยวชาญของบรรษัท RAND กล่าวว่า ถ้ารู้ว่าลูกเรือมีอาวุธ ก็จะทำให้พวกโจรสลัดเต็มใจที่จะเปิดฉากยิงก่อนเมื่อบุกขึ้นเรือ
และแม้ว่าหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป รัสเซีย จีน และอินเดียจะส่งเรือไปลาดตระเวณในบริเวณดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญของบรรษัท RAND บอกว่า บริเวณที่ว่านี้กว้างใหญ่ไพศาลมากเกินกว่าที่จะทำงานได้ผล และให้ความเห็นว่า ประชาคมนานาชาติ จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาสำคัญอันดับแรกให้ได้ก่อน ซึ่งก็คือ การมีรัฐบาลที่ทำงานอย่างได้ผลในโซมาเลีย
ในขณะเดียวกัน ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำโซมาเลีย Ahmedou Ould-Abdullah กล่าวว่า ประชาคมนานาชาติ ยังจะต้องรีบเร่งระบุตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกโจรสลัด ซึ่งเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนทางด้านต่างๆ รวมทั้งการเงิน และนำคนเหล่านี้มาดำเนินคดีต่อไป
แต่นาย Roger Middleton นักวิเคราะห์ Horn of Africa บอกว่า อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะมีคนจำนวนมากในโซมาเลีย ที่ได้รับส่วนแบ่งไม่ทางใดก็ทางหนึ่งจากเงินค่าไถ่มากกว่า 30 ล้านดอลล่าร์ที่พวกโจรสลัดได้ไปในปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ผู้นี้กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่พวกโจรสลัดทำได้ดี คือยอมจ่ายเงินให้ผู้คนเป็นจำนวนมากในส่วนต่างๆ ของข่ายงานการเมืองในโซมาเลีย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสนับสนุน หรือต่อต้านรัฐบาล ส่วนงานต่างๆของรัฐบาล และแก๊งค์ติดอาวุธทั้งหลายที่นั่น
และเพราะว่า แรงจูงใจทางเศรษฐกิจสำหรับพวกโจรสลัดสูงมาก จึงไม่เชื่อว่าการใช้กำลังทหารปราบหรือขัดขวางจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
