ในการประชุมเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของสนธิสัญญาแอนตาร์คติค ซึ่งเริ่มขึ้นในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ Hillary Clinton เรียกร้องให้มีระเบียบกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดกวดขันขึ้น เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในแถบแอนตาร์คติกา
David Gollust ผู้สื่อข่าว VOA ประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ รายงานว่า การท่องเที่ยวในแถบแอนตาร์คติกาหรือขั้วโลกใต้ กำลังขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว และอุบัติเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในบริเวณนั้นก็เพิ่มขึ้นด้วย
การท่องเที่ยวแถบแอนตาร์กติกา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการล่องเรือเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าในเวลา 15 ปีที่ผ่านมา และกำลังมีความวิตกกันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องอุบัติเหตุอย่างน้ำมันรั่ว ซึ่งจะยังความเสียหายร้ายแรงต่อที่อยู่อาศัยของนกเพนกวิน และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในแถบนั้น
ในการปราศรัยในวาระเปิดการประชุมครบรอบ 50 ปีสนธิสัญญาอนุรักษ์พื้นที่แถบขั้วโลกใต้ Antarctic Treaty ในวันนี้ [จันทร์ที่ 6 เมษายน] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่า การวางระเบียบกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และความเหมาะสมของเรือที่ใช้ในการเดินทางไปแถบขั้วโลกใต้ และว่าทางการสหรัฐเสนอญัตติที่ให้มีการจำกัด การเทียบฝั่งของเรือที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และเสนอให้มีระเบียบกฏเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับเรือชูชีพบนเรือท่องเที่ยว เพื่อให้แน่ใจได้ว่าผู้โดยสารปลอดภัยจนกว่าความช่วยเหลือจะไปถึงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนั้น สหรัฐยังขอให้มีความร่วมมือกันระหว่างประเทศมากขึ้น ในการป้องกันการปล่อยทิ้งของเสียจากเรือ ซึ่งจะยังความเสียหายแก่สภาพแวดลอดล้อมแถบนั้น
เมื่อไม่นานมานี้ เรือท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุหลายราย เรือท่องเที่ยวสองลำเกยตื้นในน่านน้ำแอนตาร์คติกา อีกลำหนึ่งชนภูเขาน้ำแข็ง และจมในบริเวณนอกปลายแหลมในปี 2550 ผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 150 คนได้รับความช่วยเหลือรอดพ้นอันตราย
ตามแผนการของสหรัฐนั้น จะให้มีการห้ามเรือที่มีผู้โดยสารเกิน 500 คนเข้าเทียบฝั่งและปล่อยให้คนลง ส่วนเรือขนาดเล็กกว่าที่มีผู้โดยสารเพียง 100 คน อาจเข้าฝั่งได้เป็นครั้งคราวโดยที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฏเกณฑ์ในความดูแลอย่างเข้มงวดกวดขัน
หลังพิธีเปิดที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ผู้แทนประมาณ 400 คนจาก 47 ประเทศ ร่วมการประชุมสองสัปดาห์ที่เมืองท่าบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสมาชิก Arctic Council สภาที่ดูแลกิจกรรมด้านขั้วโลกเหนือ ก็มาร่วมการประชุมนี้ด้วย รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของนอร์เวย์ เป็นประธานการประชุม นอร์เวย์เป็นประเทศสมาชิก Arctic Council และไปเปิดสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในทวีปแอนตาร์คติกาเมื่อไม่นานมานี้
Jonas Gahr Store รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของนอร์เวย์กล่าวว่า ทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะที่มีผลประโยชน์ในแถบนี้เท่านั้น ที่ควรวิตกเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
เขากล่าวว่า น้ำแข็งกำลังละลายไม่เฉพาะในแถบขั้วโลกเท่านั้น แต่เกือบทุกแห่งที่เป็นพื้นที่น้ำแข็ง ซึ่งกำลังมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ อย่างแถบเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแอนดีส และแม้กระทั่งภูเขาคีรีมานจาโร และคนหลายพันล้านคน ที่ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำจากเทือกเขาหิมาลัย อาจต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมและภัยแล้ง
ประธานที่ประชุมสนธิสัญญา Antarctic Treaty ครบรอบ 50 ปี ขอให้มีการควบคุมกิจกรรมทางทะเลที่เข้มงวดกวดขัน และมีความร่วมมือกันมากขึ้น ในบรรดาประเทศที่อยู่รายรอบในการค้นหาและช่วยชีวิตในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ขณะที่น้ำแข็งละลาย และจะมีบริเวณเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการเดินเรือมากขึ้น และการสำรวจแหล่งทรัพยากรพลังงานมากขึ้นนั้น การวางระเบียบกฏเกณฑ์เข้มงวดกวดขันขึ้น และการจำกัดการเข้าถึงแถบแอนตาร์คติกา จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน
