รัฐสภาสหรัฐเพิ่งจะลงมติให้ความเห็นชอบ ต่อแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในขณะเดียวกัน ก็มีการโต้แย้งถกเถียงกันเป็นอย่างมากว่า แผนที่ว่านี้จะทำงานสำเร็จตามความมุ่งหมายหรือไม่ โดยนำไปเปรียบเทียบกับแผนกู้เศรษฐกิจ New Deal ช่วงหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในคริสต์ทศวรรษ 1930 ของประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดีเลโน โรสเวลท์
ประธานาโอบามากล่าวไว้ว่า แนวคิดของแผนกู้เศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลนี้ มาจากความล้มเหลวของภาคเอกชน ที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงต้องเข้าไปดำเนินการ
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 ทำให้ประธานาธิบดีโรสเวลท์ ใช้แผนเศรษฐกิจที่รัฐบาลเป็นผู้ใช้จ่ายเงิน โดยผ่านทางโครงการสร้างถนนหนทาง และสาธารณูปโภคอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น 25 % ของแรงงานอเมริกันไม่มีงานทำ
ผลพวงของแผน New Deal ที่กลายเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ มีหลายอย่างด้วยกัน รวมถึงการจ่ายเงินชดเชย ให้กับแรงงานที่ตกงาน และเงินประกันสังคมสำหรับผู้ที่ครบอายุเกษียณงาน
จนทุกวันนี้ และโดยเฉพาะในเวลานี้ ที่อเมริกากำลังตัดสินใจว่าจะสนับสนุนแผนกู้เศรษฐกิจของประธานาธิบดีโอบามาหรือไม่นี้ ประเด็นที่ว่าแผน New Deal ของประธานาธิบดีโรสเวลท์ทำงานได้ผลหรือไม่นั้น กำลังเป็นที่โต้แย้งกันทั้งในรัฐสภา และในหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งนี้ก็เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่า แผนกู้เศรษฐกิจฉบับใหม่นี้ถือแผน New Deal เป็นแม่แบบ
ประเด็นโต้แย้งดังกล่าวแบ่งออกไปเป็นสองฝ่าย ระหว่างฝ่ายที่เชื่อว่า New Deal เพียงแต่ช่วยรองรับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือกลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า เศรษฐกิจอเมริกาในช่วยนั้น กลับฟื้นคืนตัวขึ้นมาได้ในที่สุด เพราะสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่แดน มิทเชิล นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบัน Cato ที่กรุงวอชิงตัน ไปไกลกว่านั้น เขาให้ความเห็นว่า New Deal ยืดเวลาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำออกไปอีก 7 ปี แล้ว่า รัฐบาลไม่ควรเอาแผนนี้มาเป็นแม่แบบเพื่อกู้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน
อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ให้ความเห็นว่า จุดบกพร่องของ New Deal อยู่ตรงที่การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่มากพอที่จะเอาชนะปัญหาเศรษฐกิจในเวลานั้นได้
อาจารย์ แอลแลน บริงค์ลี่ย์ นักประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียยืนยันความเห็นที่ว่า รัฐบาลในตอนนั้นใช้จ่ายเงินไม่มากพอที่จะชดเชยกับการสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้
นักเศรษฐศาสตร์ค่ายนี้ รับแนวคิดเรื่องการให้รัฐบาลใช้จ่ายเงิน เพื่อช่วยกู้ภาวะเศรษฐกิจมาจากนักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ ซึ่งเสนอทฤษฎีนี้ไว้ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930
และทั่วโลกก็กำลังให้ความสนใจว่า แผนของประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งอาศัยทฤษฎีของเคนส์ และแผน New Deal เป็นหลักนี้ จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
