ปัจจุบันถ้าคุณผู้ฟังสังเกตุรอบๆ ตัว จะเห็นได้ว่ามีสื่อโฆษณาอยู่มากมายทั่วไป ไม่ว่าจะในบ้าน ที่ทำงาน ตามถนนหนทาง ตามศูนย์การค้าหรือร้านรวงต่างๆ บางทีการนั่งดูโฆษณาเหล่านั้นก็เพลินดี แต่ถ้าไม่ใช่เราเป็นฝ่ายดูฝ่ายเดียวล่ะ หมายความว่าถ้าสื่อโฆษณาก็เฝ้าดูเราอยู่เช่นกัน ก็คงจะเป็นเรื่องแปลกไม่ใช่น้อย
ที่ว่าเป็นสื่อโฆษณาอัจฉริยะก็ไม่ใช่ เพราะว่าเป็นป้ายโฆษณาที่คิดเองได้พูดเองได้หรอก แต่คนฉลาดสมองใส เค้าเอากล้องวงจรปิดขนาดเล็กไปซ่อนไว้ในป้ายหรือรอบๆ ป้ายโฆษณานั่นเอง เพื่อคอยจับภาพว่า ใครที่เดินเข้ามาชมป้ายโฆษณานั้นบ้าง หลังจากนั้นซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า face tracking technology ซึ่งติดอยู่กับป้ายก็จะประมวลผลจากใบหน้า สีผิวและการเคลื่อนไหวของผู้ชมผู้นั้นในทันที ว่าคนๆนั้นคือผู้หญิงหรือผู้ชาย อายุเท่าไหร่ และอาจถึงขั้นระบุได้ว่าเชื้อชาติใด เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนโฆษณานั้น ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่มาชม นั่นหมายความว่าเมื่อคุณผู้ชายเดินเข้ามาดู ป้ายอาจเปลี่ยนเป็นโฆษณาที่โกนหนวด แล้วพอคุณผู้หญิงเดินเข้ามาสมทบ ป้ายก็จะเปลี่ยนเป็นโฆษณาเครื่องสำอางค์หรือชุดชั้นใน ทำนองนั้น นอกจากนี้ ป้ายโฆษณาอัจฉริยะยังสามารถประมวลผล ด้านประชากรศาสตร์เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักโฆษณาในการทำตลาดต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย
ป้ายโฆษณาอัจฉริยะนี้ไม่ใช่โครงการในฝัน แต่มีใช้แล้วจริงๆ ตามศูนย์การค้าบางแห่งในสหรัฐ โดยผู้ผลิตบอกว่าเทคโนโลยี face tracking นี้มีความแม่นยำในการคำนวณเพศและอายุของผู้ชมเกือบ 90% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องกับวงการโฆษณาหลายคนระบุว่า มีค่ามากเหลือเกิน คุณ Vicki Rabenou จนท.ประมวลผลของบริษัท Trumedia ในรัฐ Florida หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาป้ายโฆษณาอัจฉริยะบอกว่า นี่คือการโฆษณาเชิงรุกที่พยายามเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผล ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าภายในปีนี้ ตามศูนย์การค้าใน 10 เมืองใหญ่ของอเมริกาจะมีป้ายโฆษณาที่ว่านี้ติดตั้งอยู่อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ไม่เห็นดีเห็นงามกับเทคโนโลยีใหม่นี้หลายคน เนื่องจากเกรงว่าป้ายโฆษณาอัจฉริยะนี้ อาจเก็บรูปภาพ และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ชมแต่ละคนไว้ ดังเช่นคุณ Lee Tien ทนายความอาวุโสแห่งมูลนิธิ Electronic Frontier ในครซาน ฟรานซิสโกที่ให้ความเห็นว่า กล้องวงจรปิดที่คอยจับภาพ และประมวลผลผู้คนอาจเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลผู้นั้นได้ ในขณะที่คุณ Harley Geiger ที่ปรึกษาด้านสิทธิส่วนบุคคลในกรุงวอชิงตันบอกว่า ควรมีการแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบก่อนที่จะนำป้ายโฆษณาอัจฉริยะมาใช้ ว่าป้ายนี้มีการทำงานอย่างไรและนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่
