อิหร่านอาจหลุดพ้นการถูกโดดเดี่ยว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี่ คลินตัน กล่าวว่า อิหร่านมีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยวเนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกได้

ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำโลกกำลังหารือกันเพื่อทบทวนความพยายามในการหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

รัฐบาลอเมริกันชุดประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า แสดงความพร้อมในการเจรจากับอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี่ คลินตันเชื่อว่าการทบทวนนโยบายของสหรัฐที่มีต่ออิหร่าน จะช่วยให้อิหร่านหลุดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกได้

รัฐมนตรีคลินตันกล่าวว่า อิหร่านมีโอกาสที่จะก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ดังที่ประธานาธิบดีโอบาม่าได้กล่าวไว้ว่า อเมริกาได้ยื่นมือออกไปแล้ว แต่กำปั้นนั้นจะต้องคลายออกเสียก่อน

ประเทศสมาชิกถาวร ของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติทั้ง 5 ประเทศและเยอรมันนี ซึ่งเรียกกันว่า P 5 Plus 1 เตรียมตัวประชุมกันที่เยอรมันนีในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อหารือเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ David Miliband ซึ่งเพิ่งเดินทางเข้าพบปะกับรัฐมนตรีคลินตันในวันนี้ กล่าวว่าที่ผ่านมาอิหร่านเพิกเฉยต่อบทลงโทษทั้ง 3 ครั้งของคณะมนตรีความมั่นคง แต่ยังคงไม่สายเกินไปสำหรับอิหร่านที่จะเปลี่ยนใจ

รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษกล่าวว่า หากอิหร่านต้องการจะแสดงความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก ก็สามารถก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกของประชาคมโลกได้

เวลานี้ภายในกลุ่ม P 5 Plus 1 นั้น รัสเซียและจีนยังคงต่อต้านแรงกดดันจากสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมันนี ที่ต้องการให้เพิ่มการลงโทษอิหร่านมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งจีน และรัสเซียต่างสนับสนุนมติใหม่ ของคณะมนตรีความมั่นคงที่ยืนยันว่า ประชาคมโลกยังคงต้องการให้อิหร่าน ยุติโครงการเสริมคุณภาพแร่ยูเรเนียม

ในขณะเดียวกัน อิหร่านเพิ่งจะปล่อยดาวเทียมดวงแรกสู่อวกาศ ซึ่งโครงการนี้ก่อให้เกิดความกังวลต่อหลายฝ่ายเช่นกัน

Geoff Morrell โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า ความกังวลก็คืออิหร่านยังคงพยายามพัฒนาโครงการขีปนาวุธนำวิถีระยะไกล แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่โครงการปล่อยดาวเทียม แต่เทคโนโลยีที่ใช้สามารถนำไปใช้กับขีปนาวุธนำวิถีระยะไกลได้เช่นกัน ซึ่งล้วนสร้างความกังวลให้แก่อิสราเอล และประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐในยุโรป

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า โครงการขีปนาวุธนำวิถีของอิหร่านคือสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และว่าประเทศสมาชิกสหประชาชาติมีพันธะผูกพันกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงปี 2006 ว่าด้วยการห้ามขายเทคโนโลยีหรือวัตถุดิบอุปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในโครงการนิวเคลียร์ หรือโครงการขีปนาวุธนำวิถีให้แก่อิหร่าน