รายงานชิ้นใหม่จาก School of Medicine มหาวิทยาลัย Stanford ในรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะเป็นผลดีต่อผู้สูงอายุ โดยจะทำให้อายุยืนยาวขึ้นและมีปัญหาด้านสุขภาพน้อยลง เมื่อเทียบกับคนสูงอายุที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Stanford ติดตามเก็บข้อมูลจากกลุ่มนักวิ่งอายุมากกว่า 50 ปีจำนวนมากกว่า 300 คนตั้งแต่ปี 1984 เวลานั้นกลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 58 ปี และส่วนใหญ่เริ่มวิ่งอย่างเป็นจริงเป็นจังมาประมาณ 10 ปีแล้ว ปัจจุบันนักวิ่งเหล่านั้นมีอายุระหว่าง 70-80 ปี
ด๊อกเตอร์ Eliza Chakravarty ผู้จัดทำรายงานกล่าวว่า เหล่านักวิ่งสูงอายุจะมีความสามารถต่อสู้กับโรคร้าย อย่างโรคมะเร็งได้ดีกว่า และมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลวและโรคอื่นๆ น้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุทั่วไป ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
เหล่านักวิ่งสูงอายุ จะมารวมตัวกันที่สนามกีฬาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดทุกสัปดาห์ บางคนอายุ 80 กว่าแล้ว เช่นคุณมาร์ค ริคอร์ด คุณตาอายุ 80 ที่วิ่งมาเป็นระยะเวลาเกือบ 35 ปีแล้ว
คุณตามาร์คบอกว่า เขาได้วิ่งไปในสถานที่หลายแห่งที่ไม่เคยไป เช่นวิ่งไปตามป่าเขาลำเนาไพร ได้ไปยังสถานที่น่าสนใจมากมาย แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้แล้ว ปัจจุบันคุณตามาร์คจะวิ่งเหยาะๆ ในสนามกีฬาเท่านั้น
คุณ Joyce Hanna ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสุขภาพ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกล่าวว่า แม้จะดูเป็นเรื่องยากสำหรับผู้สูงอายุ ที่จะออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและคุ้มค่า
คุณ Hanna บอกว่า การที่จะจูงใจให้ผู้สูงอายุ ที่ไม่เคยออกกำลังกายตอนอายุ 20 กว่าๆ หรือ 40กว่าๆ ให้เริ่มออกกำลังกายนั้น จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นว่าการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้เกิดประโยชน์ต่อพวกเขาได้จริงๆ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าในช่วงเริ่มต้นนั้น ผู้สูงอายุไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหมเกินไป และควรใช้ชีวิตและกินอาหารเพื่อสุขภาพด้วย
