ในขณะที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ในเกาหลีใต้ กำลังพักผ่อนในช่วงปิดเทอมหน้าหนาว ยังมีเด็กนักเรียนบางคน ที่ยังตั้งหน้าตั้งตาเล่าเรียนอยู่
เด็กเหล่านั้น ส่วนใหญ่ทำคะแนนได้ไม่ดี ในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย จึงต้องเข้าเรียนเพิ่มในโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งเรียนกันสัปดาห์ละ 7 วันเป็นเวลาเกือบ 1 ปีเต็ม อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ปกครองชาวเกาหลีใต้หลายคนยังคงไม่พอใจกับระบบการศึกษาในเกาหลีใต้ จึงตัดสินใจส่งลูกๆ ไปเรียนต่อต่างประเทศ
นักเรียนส่วนใหญ่ที่สถาบันกวดวิชา Etoos Academy ในกรุงโซลต่างใช้เวลาในห้องสมุดศึกษาตำราอย่างขมักเขม้น นักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่ทำคะแนนในการสอบเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้ไม่ดี ทำให้ไม่สามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีใต้ได้ พวกเขาจึงต้องเรียนอย่างหนักเพื่อกลับมาสอบอีกครั้งในปีต่อไป
อาจารย์ลี เซียง โฮ ผอ.สถาบันกวดวิชา Etoos Academy บอกว่าผู้ปกครองของนักเรียนยินดีจ่ายเงินราว 20,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 7 แสนบาทเป็นค่าเล่าเรียนในโรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ เนื่องจากนักเรียนเกาหลีใต้จำเป็นต้องสอบให้ผ่านเพื่อจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยดีๆ ซึ่งเป็นการรับประกันถึงงานที่ดีในอนาคต และช่วยยกระดับทางสังคม ที่สำคัญยังเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ครอบครัวอีกด้วย
การเรียนที่เกาหลีใต้มีการแข่งขันสูงมาก นอกจากในโรงเรียนแล้วเด็กๆ ยังต้องเรียนเพิ่มในสถาบันกวดวิชาอีกวันละหลายชั่วโมง แต่ในขณะที่นักเรียนได้รับปริมาณการศึกษามากมาย กลับมีคำถามถึงคุณภาพการศึกษาของเกาหลีใต้ รายงานของสถาบันพัฒนาการจัดการระหว่างประเทศระบุว่า จัดให้เด็กนักเรียนเกาหลีใต้อยู่ในระดับครึ่งล่างของอันดับนักศึกษาจบใหม่ ที่มีความพร้อมในการทำงานทั่วโลก คุณ Tom Coyner ประธานบริษัทที่ปรึกษา Soft Landing Korea กรุงโซลกล่าวว่า การใช้ข้อสอบแข่งขัน แบบมีหลายคำตอบให้เลือก เช่นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น ไม่ช่วยให้เด็กคิดเป็น ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้คุณภาพของเด็กนักเรียนเกาหลีถูกจัดอยู่ในระดับต่ำ
คุณ Coyner บอกว่า ที่ถูกต้องคือไม่ควรมีตัวเลือกมากมายให้เด็กๆ เสียเวลาพิจารณา แต่ควรเจาะจงไปที่คำตอบที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียว และควรนำแนวคิดนี้ไปใช้ในระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยด้วย คุณ Coyner ยังบอกด้วยว่า เนื่องจากระบบการศึกษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองหลายคนจึงยินดีส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ มีความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษมากขึ้น
คุณ Jess สตรีชาวเกาหลีใต้บอกว่า ระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ทำให้เด็กๆ ต้องเรียนหนักเหมือนหุ่นยนต์ เธอคิดว่าระบบการศึกษาของอเมริกา เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เธอลงทุนเดินทางมายังเกาะกวม ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนของสหรัฐ เพื่อให้กำเนิดบุตร เพื่อเป็นการรับประกันว่า บุตรสาวของเธอจะได้เป็นพลเมืองสหรัฐ และได้รับการศึกษาแบบเด็กอเมริกัน
มีบริษัททัวร์หลายแห่งที่จัดบริการให้ลูกค้า เดินทางไปให้กำเนิดบุตรที่สหรัฐ และเนื่องจากชาวเกาหลีใต้ สามารถอาศัยอยู่ในอเมริกาได้ 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า ปัจจุบัน หญิงตั้งครรภ์ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก จึงใช้วิธีนี้ โดยตั้งความหวังไว้ว่าในอนาคต ลูกๆ ของตนจะไม่ต้องไปแข่งขันกับเด็กๆ คนอื่นๆ ในโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชาในเกาหลีใต้
