ถึงแม้ทางการอเมริกันมีนโยบายห้ามสตรีปฏิบัติงานทางทหาร ที่อาจทำให้พวกเธอต้องเข้าไปรบโดยตรงแต่สตรีมีส่วนในการปฏิบัติการภาคพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ และมีส่วนร่วมการสู้รบในอิรัค ทีมพิเศษที่ประกอบด้วย ทหารหญิงร่วมไปกับทหารชายในการลาดตระเวน และการตรวจค้นบ้านไปทีละหลัง
ภาพยนตร์เรื่อง “Lioness” หรือนางสิงห์ แจกแจงเรื่องราวของทหารหญิงกลุ่มหนึ่ง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในอิรัค
คุณดาเรีย ซอมเมอร์ส และผู้ร่วมอำนวยการสร้าง เมก มิกลากิน ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดี เผชิญกับการท้าทายที่คาดไม่ถึงในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Lioness”
คุณซอมเมอร์สกล่าวว่า กว่าจะได้รับอนุญาต และหาตัวทหารหญิงที่กลับมาบ้าน แล้วต้องใช้เวลานาน แต่เขายืนยันเป็นกระต่ายขาเดียวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ทรงความสำคัญ เพราะเป็นภาพยนต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่กำลังเปลี่ยนไปของสตรี
ภาพยนตร์สารคดียาว 90 นาทีเรื่องนั้น มีตัวเอกเป็นทหารหญิง 5 คน ผู้ร่วมอยู่ในหมู่สตรีอาสาสมัครรุ่นแรกจำนวน 20 คน สำหรับทีมพิเศษซึ่งประกอบด้วยหญิงล้วน ซึ่งมีฉายาว่า “Lioness” หรือทีมนางสิงห์
คุณเรนี รูธิก อธิบายให้ฟังว่า พวกเธอคิดว่าจะไปประกอบภารกิจพื้นฐาน คือจัดหาอาหาร น้ำ อะไรแบบนั้น ต่อมาเกิดความจำเป็นเกี่ยวกับการที่หน่วยทหารขยายออกไปตรวจค้นตามบ้านเพื่อหาข่าวกรอง ตามกฎหมายที่อิรัค ชายจะแตะต้องภรรยาของผู้อื่น หรือสมาชิกของครอบครัวที่เป็นหญิงมิได้ ทหารชายจึงจำเป็นต้องอาศัยทหารหญิงเพื่อหาข่าวสาร นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของภารกิจดังกล่าว ทหารหญิงจะเข้าไปช่วยตรวจค้นบ้านทีละหลัง ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ แต่เมื่อเกิดการรบก็ต้องต่อสู้
ในท้ายที่สุดทีมนางสิงห์ กลายเป็นทหารหญิงกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์อเมริกันที่ต้องเข้าไปสู้รบ ภาคพื้นดินโดยตรง มหารหญิงเรนี รูธิกผู้เป็นทหารช่างสังกัดกองพันทหารช่างที่หนึ่ง เล่าว่าในการออกล่าพวกแข็งข้อต่อต้านตามถนนแคบๆ ของเมืองรามาดี เมื่อดือนเมษายน พศ. 2547 นั้น พอมหารเลี้ยวตรงหัวมุมถนนสายหนึ่งก็โดนชาวอิรัคนับร้อยๆ คนซุ่มโจตี
เธอเล่าว่าพวกเธอไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้น ทำให้ประสาทเครียด น่ากลัว แต่เหตุผลที่พวกเธอไม่เป็นอันตรายใดๆ ก็เพราะเคยฝึกขั้นพื้นฐาน
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนางสิงห์ ยังแสวงหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า ทหารหญิงรับมือกับเรื่องที่จำเป็นต้องปฏิบัติการต่างๆ ในชีวิตทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ต้องทิ้งลูกๆ ไว้ที่บ้าน และเรื่องที่ท้าทายต่างๆ ในการกลับมาใช้ชีวิตแบบพลเรือน
ทหารหญิงเรนี รูธกกล่าวว่า การกลับมามีบทบาทเป็นแม่คนอีกนั้นยากมากทีเดียว หลังจากไม่ได้ทำหน้าที่แม่มาหนึ่งปี และไม่ต้องดูแลเอาใจใส่ลูกๆ ทุกวัน เธอกล่าวว่าเธอแต่งงานแล้ว และมีลูกสาวอายุ 9 ขวบคนหนึ่ง แต่ตอนนั้นลูกยังเด็กอยู่อายุแค่ 4 ขวบ
สตรีอเมิรกันสู้รบเพื่อชาติมาตั้งแต่มีการก่อตั้งประเทศแล้ว ในสงครามปฏิวัติสตรีอเมริกันอาสาสมัครเป็นแม่ครัว พยาบาล คนซักเสื้อผ้า และคนส่งนำระหว่างสงครามโลกทั้งสองครั้ง บทบาทของสตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบขยายวงออกไป โดยการเป็นเสมียนง่ายที่สุด พนักงานวิทยุ นักบินขับเครื่องบินลำเลียงและในด้านการบริบาลทางการแพทย์ทุกรูปแบบ สตรีอเมริกันคงทำงานเหล่านี้ต่อไปสมัยสงครามเวียตนาม
เมื่อเกิดสงครามผ่านอ่าวปี พศ.2543 สตรีอเมริกันยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ ที่กองทัพเปิดทางให้เกือบทุกหน้าที่ต่อไป และในทุกวัน ทหารหญิงของสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น 20%
คุณดาเลีย ซอมเมอร์ส ผู้ร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “นางสิงห์” กล่าวว่าบทบาทใหม่ๆ สำหรับนักรบหญิงเหล่านี้ ทำให้พวกเธอย่างก้าวเข้าสู่ยุทธภูมิที่แท้จริงเข้าไปทุกขณะ
เธอกล่าวว่า ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนางสิงห์จะทำให้ชาวอเมริกัน ทราบถึงบทบาทที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปของทหารหญิงในสหรัฐดีขึ้น คุณดาเลียกล่าวว่า ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “นางสิงห์” หรือ “Lioness” แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความหล้าหาญด้วย เธอหวังว่าภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้จะช่วยทำให้มีการยอมรับทหารหญิงเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควร และยังเพ่งความสนใจไปที่บทบาทที่แท้จริง ของสตรีในวงการทหารอเมริกันทุกวันนี้
