ใครที่ได้ชมถ่ายทอดการแข่งขันกีฬายิมนาสติกในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งและช่างสังเกตสักหน่อย คงจะเห็นว่ามีขวดน้ำผึ้งสีเหลืองวางอยู่ข้างๆ กระบะใส่แป้งทามือสำหรับนักกีฬายิมนาสติก น้ำผึ้งเหล่านั้นมีไว้เพื่อใช้ทำอะไร
คนที่ชื่นชอบความหอมหวานของน้ำผึ้ง คงจะสงสัยว่า ใครหนอเอาขวดน้ำผึ้งไปวางไว้บนเวทีแข่งขันกีฬายิมนาสติกแทนที่จะอยู่ในครัวหรือบนโต๊ะอาหาร นี่ถ้าเกิดใครบังเอิญเตะล้มหกหมดคงน่าเสียดายแย่ มีคนช่างสงสัยมากมายที่ชมการถ่ายทอดกีฬายิมนาสติกในโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง แล้วเกิดคำถามนี้ขึ้นมา หลายคนเชื่อว่าน้ำผึ้งมีไว้ให้นักกีฬาจิบ เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งก็มีบางคนแย้งว่ายังมีอาหารอีกหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มพลังงานได้ดีกว่าน้ำผึ้ง และยังเหนียวเหนอะหนะน้อยกว่าอีกด้วย และจะว่าไป นักยิมนาสติกที่รูปร่างเล็กบาง เพรียวลม สมส่วน คงจะไม่ได้ต้องการน้ำตาลมากนัก สมมติฐานข้อนี้จึงตกไป
จริงๆ แล้ว นักกีฬายิมนาสติกเหล่านั้นไม่ได้กินน้ำผึ้ง แต่ใช้น้ำผึ้งเทใส่ลงบนมือ เพื่อทำให้มือเหนียวหนึบ ยึดเกาะกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่ลื่นหลุดง่าย ไม่ว่าจะเป็นบาร์เดี่ยว บาร์คู่ ห่วงหรือม้ากระโดด โดยจะโรยแป้งลงไปก่อนทั้งที่อุปกรณ์และที่มือ จากนั้นจึงใช้น้ำผึ้งลูบไล้ตามปลายนิ้วหรือฝ่ามือ เท่านี้ก็จะได้ความเหนียวระดับมือตุ๊กแกยังเรียกพี่ทีเดียว และนั่นคือคำตอบของข้อข้องใจต่อปัญหาเกี่ยวกับขวดน้ำผึ้งกับการแข่งขันกีฬายิมนาสติก แต่ปัญหาหนึ่งที่เวลานี้ผมยังจนปัญญาจะหาคำตอบ คือทำไมต้องใช้น้ำผึ้งจากเยอรมันนีด้วย จะว่าน้ำผึ้งเยอรมันเหนียวกว่าน้ำผึ้งที่อื่นๆ ก็ไม่น่าจะใช่ เอาเป็นว่าถ้าได้คำตอบเมื่อไหร่ จะมาเฉลยให้ฟังกัน
ใครที่ได้ชมถ่ายทอดการแข่งขันกีฬายิมนาสติกในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งและช่างสังเกตสักหน่อย คงจะเห็นว่ามีขวดน้ำผึ้งสีเหลืองวางอยู่ข้างๆ กระบะใส่แป้งทามือสำหรับนักกีฬายิมนาสติก น้ำผึ้งเหล่านั้นมีไว้เพื่อใช้ทำอะไร
คนที่ชื่นชอบความหอมหวานของน้ำผึ้ง คงจะสงสัยว่า ใครหนอเอาขวดน้ำผึ้งไปวางไว้บนเวทีแข่งขันกีฬายิมนาสติกแทนที่จะอยู่ในครัวหรือบนโต๊ะอาหาร นี่ถ้าเกิดใครบังเอิญเตะล้มหกหมดคงน่าเสียดายแย่ มีคนช่างสงสัยมากมายที่ชมการถ่ายทอดกีฬายิมนาสติกในโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง แล้วเกิดคำถามนี้ขึ้นมา หลายคนเชื่อว่าน้ำผึ้งมีไว้ให้นักกีฬาจิบ เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งก็มีบางคนแย้งว่ายังมีอาหารอีกหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มพลังงานได้ดีกว่าน้ำผึ้ง และยังเหนียวเหนอะหนะน้อยกว่าอีกด้วย และจะว่าไป นักยิมนาสติกที่รูปร่างเล็กบาง เพรียวลม สมส่วน คงจะไม่ได้ต้องการน้ำตาลมากนัก สมมติฐานข้อนี้จึงตกไป
จริงๆ แล้ว นักกีฬายิมนาสติกเหล่านั้นไม่ได้กินน้ำผึ้ง แต่ใช้น้ำผึ้งเทใส่ลงบนมือ เพื่อทำให้มือเหนียวหนึบ ยึดเกาะกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่ลื่นหลุดง่าย ไม่ว่าจะเป็นบาร์เดี่ยว บาร์คู่ ห่วงหรือม้ากระโดด โดยจะโรยแป้งลงไปก่อนทั้งที่อุปกรณ์และที่มือ จากนั้นจึงใช้น้ำผึ้งลูบไล้ตามปลายนิ้วหรือฝ่ามือ เท่านี้ก็จะได้ความเหนียวระดับมือตุ๊กแกยังเรียกพี่ทีเดียว และนั่นคือคำตอบของข้อข้องใจต่อปัญหาเกี่ยวกับขวดน้ำผึ้งกับการแข่งขันกีฬายิมนาสติก แต่ปัญหาหนึ่งที่เวลานี้ผมยังจนปัญญาจะหาคำตอบ คือทำไมต้องใช้น้ำผึ้งจากเยอรมันนีด้วย จะว่าน้ำผึ้งเยอรมันเหนียวกว่าน้ำผึ้งที่อื่นๆ ก็ไม่น่าจะใช่ เอาเป็นว่าถ้าได้คำตอบเมื่อไหร่ จะมาเฉลยให้ฟังกัน
