ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประเทศที่มีความต้องการแรงงานสูงที่สุด 5 อันดับแรกของโลก


สมัยก่อน อเมริกา อังกฤษและฮ่องกงคือตลาดงานสำคัญที่ดึงดูดบรรดานักศึกษาจบใหม่และผู้บริหารระดับกลาง ให้เข้ามาอาศัยและหางานดีดีทำเพื่ออนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านการเงินและเทคโนโลยี แต่คนทำงานรุ่นใหม่สมัยนี้ พากันเดินทางไปยังตลาดแรงงานแห่งใหม่ที่ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์กำลังเติบโต อย่างเช่น แคนาดา เดนมาร์ก และโรมาเนีย

เวลานี้บริษัทใหญ่ๆ โดยเฉพาะสถาบันการเงินในอเมริกา อังกฤษและ ฝรั่งเศส ต่างปลดพนักงานจำนวนมากเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์กลับมีการเจริญเติบโตสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดแรงงานในด้านนี้ขยายตัวตามไปด้วย รายงานล่าสุดของบริษัทสำรวจทรัพยากรบุคคล Manpower ระบุว่า ปัจจุบันประเทศที่มีความต้องการแรงงานสูงที่สุดนั้นได้แก่ประเทศที่มีการเจริญเติบโตด้านตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และธุรกิจการเกษตร ซึ่งจากการจัดอันดับของนิตรสาร Fortune ปรากฎว่าประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตของตลาดแรงงานสูงที่สุด 5 อันดับแรกของโลก มีดังต่อไปนี้

อันดับที่ 5 คือออสเตรเลีย ที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของโลกมานานหลายปี อัตราการว่างงานของออสเตรเลียในปีนี้ต่ำสุดในรอบ 33 ปี และรัฐบาลออสซี่ประกาศว่ามีแผนจะอนุญาตให้มีผู้อพยพเข้าประเทศได้เกือบ 2 แสนคนต่อปี เพื่อรองรับความต้องการในตลาดแรงงาน

อันดับที่ 4 ได้แก่โรมาเนีย ซึ่งได้ประโยชน์จากการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้ประชาชนมีรายได้และมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงนั้น ชาวโรมาเนียจำนวนมากยังคงทำงานในต่างประเทศ ในขณะที่ตลาดแรงงานในประเทศกลับถูกครอบครองโดยบริษัทต่างชาติ ทำให้เวลานี้โรมาเนียประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมืออย่างมาก

อันดับที่ 3 คือญี่ปุ่น หลังจากที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะงักงันและชะลอตัวมานาน 15 ปี ดูเหมือนเวลานี้ยักษ์หลับกำลังตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน อายุเฉลี่ยที่สูงขึ้นของชาวญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทต่างๆหาพนักงานได้ยากเต็มที โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร พนักงานขาย ช่างและวิศวกร

มาถึงอันดับที่ 2 ได้แก่ประเทศเดนมาร์ก ที่ปัจจุบันมีอัตราการว่างงานเพียง 1.7% เท่านั้นหรือน้อยกว่า 5 หมื่นคนจากประชากรทั้งหมด 5 ล้าน 5 แสนคน ซึ่งธนาคารกลางเดนมาร์กระบุว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำมากจนอาจเป็นผลเสียต่อระะบบเศรษฐกิจได้ จนรัฐบาลอาจจะต้องเร่งแก้ไขกฎหมายควบคุมผู้อพยพเข้าประเทศ เพื่อให้มีจำนวนคนงานในตลาดแรงงานมากขึ้น

และสำหรับประเทศที่นิตยสาร Fortune บอกว่ามีความต้องการแรงงานสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกนั้น ก็คือแคนาดา ซึ่งแม้จะได้รับผลกระทบไม่น้อยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ แต่ด้วยตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่มหาศาล ก็ช่วยให้แคนาดากลายเป็นประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่างชาติจำนวนมาก ปัจจุบันมีความต้องการแรงงานตั้งแต่ระดับคนงานไปจนถึงผู้บริหารทั่วประเทศแคนาดา

สำหรับใครที่คิดว่าการย้ายไปทำงานในประเทศเงียบๆ อย่างแคนาดา เดนมาร์กหรือโรมาเนีย ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร บรรดาผู้บริหารของบริษัทต่างๆ เขาบอกว่า สวัสดิการที่รอคุณอยู่อาจจะทำให้คุณปฏิเสธไม่ลงก็เป็นได้ เพราะมีทั้งค่าเล่าเรียนลูก ค่าเดินทาง วันหยุดพักผ่อนนานขึ้น ที่อยู่ฟรีและยังมีค่าชุดทำงานให้ด้วย เรียกว่าเอาไปแต่ตัวกับฝีมือเท่านั้น

XS
SM
MD
LG