ในสัปดาห์นี้ วารสารการแพทย์ New England of Journal Medicine นำผลการศึกษาฉบับใหม่ ซึ่งประเมินผลกระทบที่โภชนาการสามตำรับที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในการลดน้ำหนัก และแก้ปัญหาโรคอ้วนนั้นมีต่อสุขภาพ
โรคอ้วนกำลังกลายเป็นโรคระบาดไปแล้วในโลก และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับการเจ็บป่วย และการเสียชีวิต
องค์การอนามัยโลกระบุว่า พลโลก 1,600 ล้านคน น้ำหนักตัวเกินพิกัด หรือไม่ก็เป็นโรคอ้วน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง คาดว่าภายในปี พศ. 2558 พลโลกผู้มีน้ำหนักตัวเกินพิกัด หรือเป็นโรคอ้วนจะมีจำนวนสูงถึง 2,300 ล้านคน ทั้งนี้เพราะเรื่องอาหารจานด่วน และการดำเนินชีวิตที่ไร้ชีวิตชีวามากเกินไปเป็นต้นเหตุ
ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องต้องกันว่า การลดน้ำหนักจะสามารถช่วยชีวิตคนเราได้ แต่คณะนักวิจัยระหว่างประเทศต้องการหาข้อเท็จจริงว่าตำรับการลดน้ำหนักที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดนั้น จะมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างไร
นักวิจัยนำตำรับโภชนาการลดน้ำหนักแบบลดจำนวนแคลอรี่ ซึ่งเป็นตำรับที่ใช้กันเป็นมาตรฐาน ตำรับโภชนาการเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งใช้น้ำมันมะกอกและเมล็ดธัญพืชเป็นหลัก และตำรับโภชนาการลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงซึ่งเป็นที่นิยมมาเปรียบเทียบกัน
ในการศึกษาในหมู่อาสาสมัครวัยกลางคน ผู้เป็นโรคอ้วนพอประมาณจำนวน 322 คน ซึ่งทำงานอยู่ที่ศูนย์การวิจัยแห่งหนึ่งในอิสราเอล เมื่อการศึกษาวิจัยเป็นเวลาสองปียุติลง นักวิจัยพบว่าผู้ที่ใช้ตำรับโภชนาการแบบที่มีโปรตีนสูง ลดน้ำหนักตัวได้มากที่สุดคือ 4.7 กิโลกรัม และสามารถป้องกัน มิให้น้ำหนักน้ำหนักตัวดังกล่าวกลับมา ผู้ใช้ตำรับโภชนาการเมดิเตอร์เรเนียนลดน้ำหนักตัวได้ 4.4 กิโลกรัม ส่วนผู้ที่ใช้ตำรับโภชนาการแบบลดจำนวนแคลอรี่นั้น ลดน้ำหนักได้น้อยกว่าเพื่อนคือ 2.9 กิโลกรัม
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคุณเจษฎา สีวาลี
