ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สุภาพสตรีในแวดวงการเมืองทั่วโลก


ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงได้รับเลือกตั้งให้เข้ารับตำแหน่งผู้นำในหลายประเทศ อย่างเช่น สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมนี มองโกเลีย ไลบีเรีย และชิเล (Chile)

กระนั้น นักวิเคราะห์บอกว่า ยังมีผู้หญิงในวงการการเมืองน้อยมาก และดูจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้

นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1998 เป็นต้นมา สวิสเซอร์เแลนด์ ปานามา ลัทเวีย ชิเล เบอร์มิวด้า เยอรมนี และอีกหลายประเทศลงคะแนนเสียงเลือกผู้หญิงให้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรี นอกเหนือไปจากผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากทั่วโลกที่ชนะการเลือกตั้ง ได้เข้าเป็นสมาชิกรัฐสภา

ถึงกระนั้น จำนวนสมาชิกรัฐสภาที่เป็นผู้หญิง ก็ยังอยู่แค่ 18% ของสมาชิกรัฐสภาทั่วโลก Kristin Haffert เจ้าหน้าที่ของสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Institute) องค์กรไม่มุ่งหวังกำไรซึ่งส่งเสริมระบบประชาธิปไตยทั่วโลก บอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังมีการกีดกันทางเพศ มาตรฐานวัดความสามารถของผู้หญิงแตกต่างและสูงกว่าที่ใช้วัดผู้ชาย นอกจากนี้ ผู้หญิงยังถูกตัดสินวิจารณ์ในเรื่องลักษณะรูปร่างมากกว่าด้วย

แต่ คุณ Kristin บอกว่า ยังมีเครื่องกีดขวางที่สำคัญกว่านั้นอีก

เจ้าหน้าที่ของ National Democratic Institute ผู้นี้ บอกว่า ตัวแปรที่เป็นเครื่องกีดขวางดังต่อไปนี้มีเหมือนกันทั่วโลกสำหรับผู้หญิง ซึ่งก็คือ ครอบครัวและพรรคการเมืองไม่ให้การสนับสนุน และหาเงินสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งไม่ค่อยจะได้ เรื่องของความมั่นใจก็มีบทบาท มักจะต้องมีการขอร้องให้ผู้หญิงลงสมัครรับเลือกตั้ง ในขณะที่ผู้ชายกระโดดเข้าใส่

อาจารย์ Jennifer Lawless นักรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Brown ในอเมริกา บอกว่า การสำรวจที่ทำไว้เมื่อปี 2001 แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายสนใจสมัครรับเลือกตั้งมากกว่าผู้หญิงราวๆ 20% และจะทำงานปูทางสำหรับการสมัครรับเลือกตั้ง อย่างเช่น ไปขึ้นทะเบียนเข้าชื่อไว้ในบัตรเลือกตั้ง หรือปรึกษาหารือเรื่องการหาเงิน มากกว่าผู้หญิงเป็นสองเท่าตัว และการสำรวจที่ทำในปี 2008 นี้ ชี้ให้เห็นว่า ความแตกต่างดังกล่าวยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นักรัฐศาสตร์ผู้นี้ร่วมทีมงานสำรวจความคิดเห็น ในหมู่ผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นนักวิชาชีพในอเมริการวมสี่พันคน ในทั้งสองช่วงเวลา คือปี 2001 และ 2008

ผลการสำรวจที่ว่านี้ ทำให้นักวิชาการหลายคน รวมทั้ง คุณ Sarah Brewer ผู้อำนวยการร่วมของสถาบันผู้หญิงและการเมือง (Women & Politics) ที่มหาวิทยาลัย American ในกรุงวอชิงตัน วิตกกังวล

คุณ Sarah บอกว่า ที่ทำให้ประหลาดใจก็คือ ผู้หญิงรุ่นใหม่ ซึ่งเติบโตขึ้นในยุคสมัยที่พูดกันถึงเรื่องความเสมอภาคทางเพศอย่างแพร่หลาย แต่กลับสนใจที่จะสมัครรับเลือกตั้งน้อยกว่าผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปี หรือผู้หญิงรุ่นแม่ของตน ซึ่งหมายความว่า ผู้หญิงที่ฝันหวานว่า จะมีความเสมอภาคทางเพศมากขึ้นในอนาคตนั้น คุณ Sarah มองไม่เห็นความเป็นไปได้

อาจารย์ Jennifer Lawless บอกว่า เครื่องกีดขวางสำคัญอีกอันหนึ่ง คือการที่สังคมแบ่งบทบาทหน้าที่ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เพราะในขณะที่อาจจะมีความเสมอภาคมากขึ้นในเรื่องงานนอกบ้าน แต่สำหรับงานในครอบครัวแล้ว นักวิชาการผู้นี้บอกว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังต้องรับผิดชอบและหาทางถ่วงดุลระหว่างงานนอกบ้านกับความรับผิดชอบในบ้านอยู่ต่อไป

XS
SM
MD
LG