พวกคนขับรถบรรทุก และแพทย์ ทำงานวันละหลายๆ ชั่วโมง คนงานตามโรงงาน และพยาบาล ทำงานเป็นผลัด ซึ่งทำให้พวกเขาต้องอยู่เวรทำงานตอนกลางคืน บ่อยครั้ง นักบินและทหาร ต้องตั้งหน้าตั้งตาระวังระไวเป็นชั่วโมงๆ ลงท้ายคนหล่านี้ ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน จากการอดหลับอดนอน
แพทย์ผู้ชำนาญในวิชาประสาท วิทยา ไมเคิ้ล ฉี แห่งบัณฑิตวิทยาลัยทางการแพทย์ ดยุ๊ค-เอ็น ยูเอส ที่สิงค์โปร์ กล่าวว่า คนเราทุกคนจะมีจิตใจเลื่อนลอยกันทั้งนั้น แต่จะเกิดบ่อยขึ้น ในรายที่เหน็ดเหนื่อย
แพทย์ผู้ชำนาญในวิชาประสาทวิทยา ไมเคิ้ล ฉี กล่าวว่า อาการเลื่อนลอย หมายถึง ช่วงที่มีการสนองตอบอย่างเชื่องช้า และยกตัวอย่างให้ดูว่า ถ้าคุณเห็นป้าย หรือสัญญาณจราจร ที่ให้หยุด และถ้าคุณระวังระไว คุณก็จะเหยียบห้ามล้ออย่างรวดเร็วทีเดียว แต่ถ้าคุณนอนไม่พอ คุณก็จะเหยียบห้ามล้อช้าลง
คุณหมอไมเคิ้ล ฉี ศึกษาความแตกต่างเหล่านี้โดยการตรวจสมอง ของอาสาสมัครผู้ซึ่งพักผ่อน หลับนอนมาเป็นอย่างดี แล้วคุณหมอก็ตรวจสมองของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากพวกเขาไม่ได้หลับนอนเลย เป็นเวลา 24 ชั่วโมง คุณหมอจะขอให้อาสาสมัคร ทำการทดลองเกี่ยวกับสายตาอย่างรวดเร็วทุกครั้ง เมื่ออาสาสมัครเหนื่อย คุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี พบว่า อาสาสมัคร สามารถมองเห็นข้อมูล แต่ไม่สามารถระบุสิ่งที่พวกเขามองเห็นได้อย่างถูกต้อง
คุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี กล่าวว่า เมื่อคุณนอนไม่พอ จะมีช่วงเวลาที่คุณทำงานได้เป็นปกติ เมื่อเปรียบเทียบกันดูแล้ว แต่ก็มีช่วงเวลาที่คุณไปชนอะไรเข้า ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เกิดคละเคล้ากันไป ภายในช่วงเวลาไม่กี่วินาที
คุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี กล่าวด้วยว่า กิจกรรมจะลดลงมากที่สุดในบริเวณที่เรียกกันว่า ส่วนควบคุมทางสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตัดสินใจ และว่า เรื่องดังกล่าวนี้ สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้
คุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี กล่าวว่า คนจำนวนมาก พยายามผลักดันให้ตัวเองตื่น เพื่อทำโครงการหรืองานให้เสร็จ ซึ่งเป็นเจตนาดี แต่การทำเช่นนั้น อาจเกิดผลร้าย เพราะการวิจัยของเราแสดงว่า มีช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถดำเนินกรรมวิธีเกี่ยวกับข่าวสารได้อย่างเหมาะสม
คุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี กล่าวว่า พอจะเชื่อได้แน่ว่า การนอนหลับพักผ่อนเสียบ้าง แล้วทำงานให้เสร็จ ซึ่งเป็นตอนที่คุณได้พักผ่อนมาแล้วอย่างดี จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า แต่เขากล่าวด้วยว่า นักวิจัยกำลังมองหาวิธีช่วยเหลือผู้ที่ต้องตั้งตาระวังระไวเป็นเวลานานกว่าปกติ เมื่อพวกเขาจะต้องตื่นตัวหลับไม่ได้ งานวิจัยของคุณหมอ ไมเคิ้ล ฉี ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Journal Of Neuroscience
