ปัจจุบันประเทศในเอเชียได้เปรียบดุลการค้ากับประเทศในส่วนอื่นๆ ของโลกอยู่มาก ตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีก็คือ ตู้บรรจะสินเค้าที่ว่างเปล่าหลายล้านตู้ ถูกส่งกลับมายังเอเชีย การขนย้ายและจัดเก็บตู้สินค้าเหล่านั้น ทำให้เสียพื้นที่ท่าเรือ และพื้นที่บนเรือ รวมทั้งสูญเสียพลังงานและค่าใช้จ่ายไปเปล่าๆ และยังก่อให้เกิดมลพิษ โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ขึ้นมาอีกด้วย
นักธุรกิจชาวอินเดียผู้หนึ่ง จึงพยายามคิดค้นทำตู้บรรจุสินค้าแบบพับเก็บได้ เพื่อประหยัดเนื้อที่ในการขนส่ง ซึ่งจะสามารถลดขนาดของตู้บรรจุสินค้าขนาดมาตรฐานลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง
ตู้บรรจุสินค้าที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท่าเรือต่างๆ บนเรือสินค้า บนรถไฟหรือรถบรรทุกนั้นมีลักษณะไม่ต่างกัน คือต่างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำจากเหล็กและภายในบรรจุสินค้าที่มาจากทั่วโลก หรือบางตู้ก็อาจเป็นตู้เปล่าๆ
ในแต่ละปีจะมีการขนย้ายตู้เหล่านี้ทั้งทางบกและทางทะเลเกือบ 150 ล้านตู้ทั่วโลก และเนื่องจากความไม่สมดุลด้านปริมาณการค้าระหว่างประเทศ ตู้บรรจุสินค้าจากเอเชียที่ส่งไปยังอเมริกาเหนือและใต้ ยุโรป รวมทั้งแอฟริกา จึงมักจะมีสินค้าบรรจุอยู่เต็ม ในขณะที่ตู้ที่ส่งกลับมามักจะเป็นตู้เปล่าซึ่งทำให้บรรดาบริษัทผู้รับส่งสินค้ามีต้นทุนจากการจัดเก็บและขนย้ายตู้เปล่ารวมแล้วหลายหมื่นล้านดอลล่าร์ต่อปี
เหตุผลดังกล่าวทำให้คุณ Avinder Bindra อดีตนายธนาคารเพื่อการลงทุนเกิดความคิด “ตู้บรรจุสินค้าแบบพับได้” ซึ่งจะช่วยลดขนาดของตู้ลงเหลือเพียง 1 ใน 4
คุณ Avinder Bindra บอกว่าหากตู้บรรจุสินค้าแบบพับได้่ 4 ตู้ ใช้เนื้อที่เท่ากับตู้ปกติ 1 ตู้ ก็จะทำให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้น ก่อนหน้านี้ เคยมีคนที่พยายามสร้างตู้บรรจุสินค้าแบบพับได้มาแล้วหลายคน แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ คุณ Bindra จึงขอความร่วมมือจากอาจารย์ Anoop Chawla และอาจารย์ Sudipto Mukherjee จากสถาบันเทคโนโลยีอินเดียให้ช่วยคิดวิธีสร้างตู้ที่ว่านี้ และผลงานการคิดค้นที่ออกมาก็มั่นคงแข็งแรงและสามารถใช้งานได้ไม่แพ้ตู้บรรจุสินค้าแบบปกติเลยทีเดียว
อาจารย์ Mukherjee หนึ่งในผู้คิดค้นอธิบายการทำงานของตู้แบบพับได้นี้ว่าใช้หลักกลศาสตร์ง่ายๆ คือใช้ฐานระบบไฮโดรลิคคอยยกขึ้นลง ซึ่งพนักงานเพียงแค่คนเดียวหรือสองคนก็สามารถพับตู้ให้แบนและเก็บได้ในเวลาไม่กี่นาที อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Anoop Chawla ผู้คิดค้นอีกผู้หนึ่งบอกว่าแม้จะดูง่ายๆแต่กว่าจะคิดค้นออกมาได้ก็ใช้เวลาไปถึง 3 ปี และหลังจากการคิดค้นสำเร็จลุล่วง ก็ได้เวลาส่งผลงานคืนให้แก่คุณ Avinder Bindra เพื่อนำไปใช้ในทางธุรกิจต่อไป
ทางด้านคุณ Bindra ก็บอกว่าลำดับต่อไปคือการขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะนำ ไปใช้จริงๆ บนเรือขนส่งสินค้า และแม้ตู้บรรจุสินค้าแบบพับได้จะมีราคาแพงกว่าตู้ปกติประมาณ 10-15% แต่นายธนาคารผู้นี้ก็ยืนยันว่าบริษัทที่หันมาใช้ตู้แบบใหม่จะได้ต้นทุนที่เสียไปคืนจากการนำมาใช้ในการขนส่งทางเรือเพียงแค่ 1-2 รอบเท่านั้น
