ในทศวรรษที่ 1970 ได้มีการใช้กีฬาปิงปองในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่ตอนนี้นักกีฬาเกาหลีใต้กำลังนำการแข่งขันสุนัขลากเลื่อน มาเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจจะมีส่วนในการนำไปสู่การรวมชาติเกาหลีก็เป็นได้
การแข่งขันสุนัขลากเลื่อนที่มีผู้เข้าแข่งขันกว่า 80 คนของเกาหลีใต้ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นนัดที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการแข่งขันที่ต้องข้ามเข้าไปในแดนเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก
แต่การแข่งลากเลื่อนครั้งนี้จะใช้เป็นเลื่อนแบบล้อ เพราะไม่มีหิมะตกในช่วงนี้ นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีการแข่งสุนัขลากเลื่อนในแผ่นดินเกาหลีเหนือ แต่ไม่มีผู้เข้าแข่งขันจากเกาหลีเหนือเลย คนเกาหลีเหนือก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมการแข่งขัน มีเพียงพ่อครัวในโรงแรมใกล้ๆ ไม่กี่คนที่แอบมองลงมาจากช่องหน้าต่างด้วยความสงสัย ทหารที่ยืนประจำการอยู่บนเขาก็มองลงมาเหมือนกัน สำหรับสื่อมวลชนที่มาทำข่าวถูกเตือนว่าห้ามถ่ายภาพวิดีโอด้วย
การแข่งขันสุนัขลากเลื่อนเป็นของแปลกสำหรับชาวเกาหลีเหนือ และชาวเกาหลีใต้ก็เข้าใจดีว่า จากการที่เกาหลีเหนือต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารมาหลายปี ชาวเกาหลีเหนือจึงมองว่า การได้รับโอกาสเข้ามาจัดการแข่งขันในเกาหลีเหนือก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว
เขาบอกว่าเมื่อ 20 -30 ปีที่ผ่านมา คนเกาหลีใต้ก็ไม่รู้จักกีฬาสุนัขลากเลื่อนเลยเหมือนกัน สุนัขควรจะเอามาทำอาหารมากกว่าจะเอามาแข่งขัน
ดังนั้น คุณคิม แท ยองประธานสหพันธ์กีฬาสุนัขลากเลื่อนของเกาหลีใต้ จึงบอกว่าตอนแรกทหารเกาหลีเหนือก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสุนัขพวกนี้ต้องข้ามแดนเข้ามาด้วย แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มพูดถึงเรื่องกีฬาประเภทนี้อย่างคุ้นเคยมากขึ้นแล้ว
เมื่อ 10 ปีก่อน เกาหลีเหนือได้จัดตั้งเขตท่องเที่ยวพิเศษภูเขาคุมกังขึ้น และแม้ว่าทั้ง 2 ประเทศยังอยู่ในภาวะสงครามทางเทคนิกอยู่ แต่ทุกๆวันรถนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ก็สามารถข้ามแดนที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มาที่รีสอร์ตของชาวเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ในเกาหลีเหนือได้
นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ต้องทิ้งโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์แลปท๊อปไว้ที่ฝั่งเกาหลีใต้ เนื่องจากนโยบายปิดประเทศของเกาหลีเหนือ ก่อนที่จะได้มาเที่ยวสวนสนุกของเกาหลีเหนือ จากนั้นก็ยังสามารถไปปีนเขาที่มีการสลักคำขวัญเชิดชูตระกูลของประธานาธิบดีคิมซึ่งปกครองเกาหลีเหนืออยู่ในขณะนี้ด้วย
จากนั้น ก็ยังจะได้ชมการแสดงจากท้องถิ่นที่ดนตรีจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรวมชาติด้วย ผู้สนับสนุนเขตท่องเที่ยวนี้บอกว่า กิจกรรมนี้มีคุณค่ามากต่อการเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หลังจากที่เป็นศัตรูกันมากว่า 50 ปี แต่การเข้าไปสู่หมู่บ้านชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น ยังถูกสั่งห้าม และมีการป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยรั้วลวดหนาม กำแพงคอนกรีต และจุดตรวจของทหารเกาหลีเหนือ แต่สำหรับผู้เข้าแข่งขันกีฬา สุนัขลากเลื่อน อย่างคุณโชว ยูนิส ก็ยังบอกว่า นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญ
เขาว่า เรื่องนี้มีความหมายมากสำหรับพวกเขา เป็นกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เป็นครั้งแรกด้วย
ผู้สนับสนุนโครงการนี้บอกว่า ในอนาคตอาจจะมีการจัดตั้งกลไกในการขนส่งเพื่อจัดกิจกรรมคล้ายๆกันนี้ต่อไปในอนาคต อย่างเช่นการส่งสุนัขพันธ์สำหรับการแข่งขันผ่านเขตกักกันสัตว์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งน่าจะเป็นการกรุยทางไปสู่การข้ามแดนไปมาหาสู่กันระ หว่างเกาหลีเหนือและใต้ได้มากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นคนหรือจะเป็นเจ้าสัตว์สี่ขา
