อินเตอร์เนต กล้องถ่ายภาพที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ หรือเวบ แคเมร่า และการเชื่อม ต่อด้วยเทคโนโลยีระดับ สูงอื่นๆ ช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้สิ่งเหล่า นี้ยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ ใหม่ๆ ขึ้น แม้แต่ในหมู่คนที่ไม่รู้จักกัน
ผู้สื่อข่าววีโอเอ Paige Kollock มีรายงานว่าเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้คนสองคน จากคนละซีกโลกก่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
คุณสเตเชีย เมอร์ฟี มีเพื่อนคุยทางอินเตอร์เนตที่ใช้ชื่อว่า “เบลสซิ่ง” เธอจะทำสิ่งเดิมๆ เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่เสมอ คุณสเตเชียติดต่อพูดคุยกับ “เบลสซิ่ง” เพื่อนของเธอที่อยู่ในอาฟริกาใต้
ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจที่มีชื่อว่า “Infinite Family” หรือครอบครัวที่ไม่มีที่สิ้นสุด คุณสเตเชีย ใช้เวบแคเมร่า หรือกล้องที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ในการพูดคุยกับเบลสซิ่ง ทั้งสองคนติดต่อกันมานาน ราวแปดเดือนแล้ว คุณสเตเชียวางตัวเป็นทั้งผู้ปกครองและเป็นเพื่อนให้แก่เด็กกำพร้าอายุ 13 ปีคนนี้
คุณเอมี่ สโตรคส์ ริเริ่มโครงการ “Infinite Family” ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในสหรัฐ สามารถติด ต่อพูดคุยกับเด็กกำพร้า หรือเด็กๆ ที่มีความเปราะบางในอาฟริกาใต้ได้ สถิติจากองค์การพัฒนาระหว่างประ เทศของสหรัฐ หรือ USAID แสดงว่า ภายในปี พศ.2553 หนึ่งในห้าของเด็กในอาฟริกาใต้จะกลายเป็นเด็กกำ พร้า ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ที่คร่าชีวิตผู้คนราวปีละ 4 แสนคน
คุณเอมี่ สโตรคส์ เล่าว่าแนวคิดสำหรับ โครงการ “Infinite Family” นั้นก่อตัวขึ้นเมื่อเธอรับเด็กจากโจฮันเนส เบิร์ก ในอาฟริกาใต้มาเป็นบุตรบุญธรรมเมื่อปี พศ.2546 ในการเดินทางสำรวจสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตามที่ ต่างๆ ทำให้ทราบว่าเด็กจำนวนมากจะเติบโตขึ้นมา โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลเอาใจใส่ในสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริง
โครงการ “Infinite Family” มีผู้ประสานงานในพื้นที่ในอาฟริกาใต้ ที่คอยพาเด็กๆ ไปยังศูนย์คอมพิว เตอร์ และสอนให้เด็กๆ เหล่านั้นใช้เวบ แคเมร่าและการส่งข้อความแบบรวดเร็วผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า Instant Messaging นอกจากนี้ที่ปรึกษาชาวอเมริกันยังได้รับการฝึกอบรม และยังต้องเข้าร่วมโครงการเป็นเวลา 1 ปีด้วย
คุณสเตเชีย เมอร์ฟี ที่ปรึกษาในโครงการ “Infinite Family” กล่าวว่า ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่จะต้องคอย อยู่ใกล้ๆ กับคอมพิวเตอร์ตอนเที่ยงวันพุธ และเก้าโมงครึ่งในเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เล็กน้อยสำหรับเธอ
อย่างไรก็ตาม คุณเอมี่ สโตรคส์ ผู่ก่อตั้งโครงการนี้กล่าวว่า ไม่มีอะไรสามารถทดแทนอ้อมกอดของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือการที่ได้อยู่ในผ้าห่มบนเตียงกับคนที่คุณรักได้ แต่วีดีโอและเทคโนโลยีช่วยก่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และความผูกพันธ์อย่างจริงจัง และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การที่เหล่าที่ปรึกษาก็ได้รับความช่วย เหลือมากพอๆ กับเด็กๆ ด้วย
