ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐบาลปากีสถานห้ามฉายหนังอินเดีย ที่ถ่ายทำในอินเดีย


ในกลางเดือนสิงหาคมนี้อินเดียกับปากีสถานฉลองวันครบรอบ 60ปี แห่งเอกราช จากการปกครอง ของอังกฤษและวันแห่งการแยกประเทศออกเป็น 2 ชาติ แต่สองประเทศเพื่อนบ้านนี้ไม่เป็นมิตรกันเลย มีการสู้รบกันมาสามครั้งสามครา และการแย่งดินแดนกันในแคว้นแคชเมียร์เป็นปัญหาใหญ่ของ อินเดียกับปากีสถาน แต่ความไม่ลงรอยกันยังเลยเทิดไปถึงเรื่องบันเทิงเริงรมย์อีกด้วย

คนปากีสถานส่วนใหญ่เป็นแฟนภาพยนตร์อินเดียตัวยง แต่ส่วนมากไม่ได้ไปโรงหนัง แต่มักจะไปซื้อ ดีวีดี หรือเทปวิดีโอหนังอินเดียในตลาดมืดมาเปิดดูกันที่บ้านเนื่องจากรัฐบาลปากีสถานห้ามนำ เข้าภาพยนตร์อินเดียมาเป็นเวลา 42 ปีแล้ว

สองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียใต้นี้ทะเลาะกันมาตลอดตั้งแต่เกิดการฆ่าฟันกันตอนแยกออกเป็นสองชาติเมื่อ60 ปีก่อนตอนที่อังกฤษตัดสินใจคืนเอกราชให้แก่อินเดียหลังการแยกประเทศปากีสถานกลาย เป็นชาติมุสลิมโดยอินเดียนั้นคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอฮินดู

คุณอัซฟาร ชาฟคัสหัวหน้าสำนักงานกรั่นกรองภาพยนตร์ปากีสถานอธิบายเหตุผลของการห้ามฉาย หนังอินเดียที่ถ่ายทำในอินเดียว่า หลังจากได้รับเอกราชในปีคริสศักราช1947 ปากีสถานยังอนุญาติ นำเข้าหนังอินเดียแต่เริ่มมีการห้ามตอนที่ปากีสถานรบกับอินเดียในปี ค.ศ.1965 ปากีสถานนำเข้า ภาพยนตร์ อินเดียอย่างถูกกฏหมาย ทั้งหมด 250 เรื่องซึ่งก็ถูกนำมาฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโรงหนัง ปากีสถาน

ภาพยนตร์ใดก็ตามที่ถ่ายทำในอินเดียจะถูกห้ามนำเข้า ปากีสถาน เด็ดขาดแต่ที่ผ่านมาหนังอิน เดียที่ถ่ายทำที่อื่นไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอาหรับเอมิเรท ฮ่องกง กรุงเทพ อเมริกา อังกฤษ หรือแคนาดา จะได้รับอนุญาติให้ฉายในปากีสถานได้ อย่างไรก็ดีในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ปากีสถาน กับอินเดียเริ่มดีขึ้นโดยทั้งสองชาติหันมา เจรจาสันติภาพ ส่งผลให้การกรั่นกรองหนังในปากีสถานผ่อน คลายความเคร่งครัดลงบ้าง

คุณชาฟกัสบอกว่าล่าสุดรัฐบาลปากีสถานอนุญาติให้นำเข้า ภาพยนตร์อินเดียสองเรื่องแม้จะถ่าย ทำในอินเดียก็ตามได้แก่ ทัชมาฮาล และ โมกัลอี อัสสัม โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเจรจา สันติภาพกับอินเดีย หัวหน้าฝ่ายกรั่นกรองหนังปากีสถาน กล่าวปิดท้ายแบบติดตลกว่าหนังทั้งสองเรื่องไม่ทำเงินเลย แถมยังล้มเหลวไม่เป็นท่าทำเอาผู้นำเข้าหนังขาดทุน แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นเป็นเรื่องขำขัน

คุณ จามาล ชา นักแสดงชาวปากีสถานและเจ้าของโรงเรียนศิลปะการแสดงอุนเนอกาดาในกรุง อิสลามบัดบอกกับวีโอเอภาคภาษาไทยว่า การห้ามนำเข้าหนังอินเดียมีผลกระทบต่อธุรกิจภาพ ยนตร์ในปากีสถาน เพราะหนังอินเดียเคยช่วยส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจ เขาบอกว่า ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามนี้ เพราะการไม่มีภาพยนตร์อินเดียใหม่ๆมาฉายให้ชมในโรง หนังปากีสถานนาน 42 ปีทำเอากิจการสร้างหนังและโรงภาพยนตร์ปากีสถาน เลิกกิจการกันไป หลายเจ้าที่เหลืออยู่ก็ผลิตหนังออกมาขายได้ ปีละไม่กี่เรื่องและยังล้าหลังมากในเรื่องเทค นิคการถ่ายทำ

ครูสอนการแสดงชาวปากีสถานบอกว่าหนังอินเดียเข้าถึงคนปากีสถาน เพราะภาษาที่ใช้เหมือนกัน วัฒนธรรมก็ไม่ต่างกันมาก และ รูปแบบของหนังก็คล้ายกัน คือมีเพลง มีการเต้นรำและเป็นละคร น้ำเน่า คุณจามาล ชา กล่าวส่งท้ายว่ารัฐบาลปากีสถานต้องทำอะไรมากกว่าแค่อนุญาตนำเข้าหนัง อินเดียเข้าไม่กี่เรื่องเพียงเพื่อประโยชน์ของการเจรจาสันติภาพสองชาติอย่างเดียว

อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าสถานทูตอินเดียในกรุงอิสลามบัดท่านหนึ่งบอกกับวีโอเอ ภาคภาษาไทยแบบ ไม่ประสงค์จะออกนามว่า ถ้าปากีสถาน เปิดเสรีธุรกิจบันเทิงกับอินเดีย ตลาดหนังอินเดียจะเข้า ครองตลาดหนังในปากีสถานอย่างล้นหลามเพราะชาวปากีสถานชื่นชอบหนังและดาราอินเดีย กันเป็นทุนอยู่แล้ว และอินเดียเองก็มองตลาดบันเทิง ขนาดใหญ่ของปากีสถานตาเป็นมันเพราะนอก จากจะทำเงินแล้วภาพยนตร์ยังเป็นตัวเสริมสร้างความสัมพันธ์สองชาติในระดับประชาชนทั่วไปอย่าง ได้ผล

เจ้าหน้าที่ทูตสาวชาวอินเดียคนนี้บอกว่าการเปิดเสรีตลาดภาพยนตร์ระหว่างปากีสถาน กับอินเดียคงเป็นไปได้ยากเพราะว่าทุกครั้งที่มีการเจรจากันเรื่องนี้ปากีสถานะจะยกเงื่อนไขการแก้ปัญหาการแก่งแย่งแคว้นแคชเมียร์มาเป็นประเด็นต่อรองทุกทีไป ความหวังของคอหนังอินเดียในปากี สถาน ที่จะได้ชมภาพยนตร์อินเดียอย่างเสรีเพื่อ ฉลอง 60 ปีวันชาติดูยังจะริบหรี่ ตราบใดที่อินเดีย กับปากีสถานยังไม่สามารถปรองดองกันได้

XS
SM
MD
LG