ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาวอินเดียต่อต้านโครงการให้การศึกษาเรื่องเพศแก่วัยรุ่น


มีรายงานว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ๆ ในอินเดีย 1 ใน 3 มีอายุระหว่าง 15-29 ปี ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กวัยรุ่นและชาวอินเดียรุ่นใหม่ยังไม่เข้าใจถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเท่าใดนัก ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการและองค์การควบคุมโรคเอดส์อินเดียจึงจัดให้มีโครงการเรื่องเพศศึกษาให้แก่นักเรียนมัธยมปลายอายุประมาณ 15-17 ปีทั่วประเทศ เป้าหมายเพื่อลดจำนวนวัยรุ่นผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตามวัฒนธรรมอินเดียนั้น เรื่องเพศศึกษาและการมีเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเยาวชน โครงการให้การศึกษาเรื่องเพศแก่วัยรุ่นจึงโดนต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายที่มองว่าการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียนเป็นการทำลายวัฒนธรรมอินเดียและทำให้จิตใจของเยาวชนต้องแปดเปื้อน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลายรัฐในอินเดียรวมทั้งรัฐใหญ่ๆ เช่นมหาราชตะ กุจจาราช ราชสถาน และมัธยะประเทศ ต่างประกาศไม่ยอมรับโครงการดังกล่าวหลังจากที่มีกลุ่มผู้ร่างกฏหมายออกมาประท้วงมากมายซึ่งรวมถึงคุณโชบา ปะดังวี สมาชิกสภานิติบัญญัติจากรัฐมหาราชตะด้วย

คุณปะดังวีกล่าวว่าโครงการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมอินเดียที่เชื่อว่าเรื่องเพศสัมพันธ์ของชายหญิงควรเป็นเรื่องของคนที่แต่งงานแล้วเท่านั้น และเด็กๆ ไม่สมควรเรียนรู้เรื่องดังกล่าว เธอบอกว่าเรื่องการสอนเพศศึกษาจะเป็นเสมือนการสอนให้เยาวชนเลิกเรียนหนังสือ แล้วหันไปหมกมุ่นเรื่องทางเพศแทน

ในขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงต่างเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ครูหลายคนในรัฐอุตระประเทศจุดไฟเผาเอกสารการสอนเรื่องเพศ รวมถึงผู้ปกครองมากมายที่ออกมาแสดงความเห็นในทางต่อต้าน ในขณะที่การถกเถียงกำลังดำเนินไปอย่างเผ็ดร้อน รัฐบาลอินเดียตัดสินใจประกาศว่าจะทบทวนโครงการนี้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กลุ่มผู้สนับสนุนซึ่งเชื่อว่าอินเดียในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก รวมทั้งทัศนะคติในเรื่องเพศของเยาวชนด้วย

กลุ่มผู้สนับสนุนหยิบยกผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า คนอินเดียรุ่นใหม่ต่างเปิดรับเรื่องทางเพศผ่านทางสื่อต่างๆ เช่นโทรทัศน์ หรืออินเตอร์เนต ดังนั้นเรื่องเพศสัมพันธ์หรือการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน จึงไม่ใช่สิ่งต้องห้ามสำหรับชาวอินเดียอีกต่อไป

คุณสุชาตา ลาโอผู้อำนวยการองค์กรควบคุมโรคเอดส์อินเดียบอกว่า เรากำลังพูดถึงการควบคุมโรคระบาดซึ่งก็คือการช่วยชีวิตคน ไม่ใช่เรื่องทัศนคติทางวัฒนธรรมว่าอะไรควรไม่ควร

คุณเดนนิส บราวน์ผู้ประสานงานด้สนโรคเอดส์ในอินเดียขององค์การสหประชาชาติให้ความเห็นว่า แม้การสอนเพศศึกษาในโรงเรียนจะเป็นประเด็นที่อ่อนไหวในอินเดีย แต่การจะยกเลิกโครงการนี้ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องแต่อย่างใด และว่าการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้ผู้ปกครองชาวอินเดียจะไม่สอนบุตรหลานของตนในเรื่องนี้ แต่สื่อต่างๆ ทั้งโฆษณา ภาพยนต์ อินเตอร์เนต ต่างนำเสนอเรื่องทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง และหากโรงเรียนไม่สอนให้เด็กเข้าใจถึงเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยแล้ว เด็กอาจจะเรียนรู้เรื่องทางเพศที่ผิดๆ ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมอินเดีย และความต้องการของเด็กๆ จนยากจะควบคุม นอกเหนือจากประเด็นทางวัฒนธรรมแล้วยังมีเหตุผลอื่นที่สนับสนุนความเชื่อที่ว่าเด็กวัยรุ่นชาวอินเดียควรเรียนรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย นั่นคือการระบาดของโรคเอดส์อย่างรวดเร็วในหมู่คนรุ่นใหม่

ปัจจุบันมีชาวอินเดียติดเชื้อเอชไอวี 2-3 ล้านคน และในขณะที่อินเดียมีประชากรวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 25 ปีถึง 500 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในโลก การขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศสัมพันธ์และการติดต่อของโรคเอดส์นั้นจึงเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย

XS
SM
MD
LG