ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เครื่องตรวจสอบมะเร็งทรวงอก MRI


ตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ผู้หญิงใน ประเทศพัฒนาแล้วเป็นโรค มะเร็งทรวงอกเพิ่มมากขึ้น ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา บรรดาแพทย์ได้ กระตุ้นให้คนไข้ตรวจสอบด้วย ตนเอง และเอ็กซเรย์หน้าอก หรือที่เรียกว่าเมมโมแกรมเป็นประจำทุกปี หลังจากที่มีอายุ 40 ปี ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งกล่าวว่า การทำเมมโมแกรมอาจไม่เพียงพอ สำหรับผู้หญิง ที่มีความเสี่ยงสูง

คาดว่าทุกๆ ปีมีผู้หญิงในสหรัฐราว 2 แสนคนที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งทรวงอก ซึ่งโรคนี้ป็น สาเหตุอันดับ 2 ที่ทำให้ผู้หญิงอเมริกันเสียชีวิตมากที่สุด

ส่วนใหญ่แล้วการทำเมมโมแกรมช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการการเสียชีวิตด้วยโรคนี้ แต่การศึกษา ที่ตีพิมพ์ ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ระบุว่าเครื่องตรวจสอบมะเร็งที่มีชื่อว่า “Multiple Resonance Imaging” หรือ MRI สามารถค้นพบสัญญาณของโรคมะเร็ง ที่แม้แต่การทำเมมโมแกรม หรือแพทย์อาจตรวจสอบไม่พบ

นักวิจัยศึกษาผู้หญิง 969 คนที่เพิ่งจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งทรวงอกที่หน้าอก 1 ข้าง. การทำเมมโมแกรมไม่สามารถตรวจสอบความผิดปกติที่หน้าอกอีกข้างหนึ่งได้ แต่เมื่อผู้หญิง เหล่านั้นเข้ารับการตรวจสอบด้วยเครื่อง MRI ปรากฏว่ามีอยู่ 30 คนในกลุ่มนี้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคมะเร็งที่หน้าอกอีกข้างหนึ่ง และได้รับการยืนยันโดยการตรวจสอบเนื้อเยื่อภายในระยะเวลา 1 ปี

ปัจจุบันการตรวจสอบโรคมะเร็งแบบใหม่นี้ ถูกนำไปใช้กับผู้หญิงในสหรัฐราว 1 ล้าน 4 แสนคนที่ คาดว่าจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคมะเร็ง หรือผู้ที่มีคุณแม่ หรือพี่สาวน้องสาวที่เป็นโรคมะเร็งรังไข่ ตลอดจนผู้หญิงที่เคยเป็นมะเร็งในวัยเด็ก และผู้ที่มีเชื้อพันธุ์ ของโรคมะเร็งทรวงอกด้วย

อย่างไรก็ตาม เครื่องตรวจสอบมะเร็ง MRI ยังไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าวิธีการ ตรวจสอบแบบนี้ให้ผลผิดพลาดในอัตราที่สูงกว่าการตรวจสอบด้วยการทำเมมโมแกรม แต่แพทย์หญิงเอลิซาเบธ มอริส แห่งศูนย์มะเร็งเมมโมเรียล สโลน เคตเตอริงของนิวยอร์ค กล่าวว่า ประโยชน์ที่ได้จากการตรวจสอบด้วยเครื่อง MRI นั้นคุ้มค่า

แพทย์หญิงเอลิซาเบธ มอริสกล่าวว่า เครื่องตรวจสอบมะเร็ง MRI แสดงถึงบริเวณที่เลือด ไหลเวียนผิดปกติ ซึ่งอาจแสดงถึงสัญญาณของโรคมะเร็งทรวงอกในระยะเริ่มต้น และไม่สามารถ มองเห็นด้วยการทำเมมโมแกรม

การตรวจสอบด้วยเครื่อง MRI นั้นมีราคาแพง, และไม่ค่อยมีใช้ในหลายๆ ส่วนของสหรัฐ และหลายๆ ส่วนในโลกด้วย

คุณหมอเอลเมอร์ เวอร์ทา แห่ง Washington Hospital Center ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า แม้แต่ในสหรัฐ เอง ก็มีผู้คนราว 50 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่สามารถเข้ารับการตรวจ สอบด้วยเครื่อง MRI ซึ่งเสียค่าตรวจครั้งละ 2 พันดอลล่าห์

คุณหมอเอลเมอร์ เวอร์ทา เชื่อว่าผู้หญิงเหล่านั้นสามารถใช้วิธีอื่นๆ เพื่อตรวจสอบ มะเร็งในระยะ เริ่มต้นได้ เช่นการตรวจหน้าอกด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน ไปพบแพทย์เป็น ประจำเพื่อตรวจ สุขภาพ และหลังจากอายุ 40 ปี ต้องทำเมมโมแกรมปีละครั้ง

XS
SM
MD
LG