คณะที่ปรึกษาขององค์การอาหารและยาของสหรัฐ ลงความเห็นว่ายาต้านเอดส์ชนิดใหม่ของบริษัท Pfizer ควรได้รับการอนุมัติให้นำออกใช้ได้ เพื่อว่าผู้ป่วยที่บำบัดด้วยยาที่มีอยู่ไม่ได้ผล จะได้มีทางเลือกใหม่
คาดว่าองค์การอาหารและยาของสหรัฐ จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับยานี้ ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ยาต้าน HIV/AIDS แบบใหม่ของบริษัท Pfizer ดังกล่าวเรียกว่า “มาราวิร็อค” เป็นยาเม็ดใช้รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นยาชนิดแรกที่มุ่งป้องกันเชื้อ HIV ไม่ให้เข้าไปในระบบภูมิต้านทาน ขณะที่ยาแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ จะเข้าโจมตีเชื้อไวรัส
นายแพทย์ Jeffrey Laurence ผู้อำนวยการห้องทดลองศูนย์วิจัยไวรัสโรคเอดส์ ที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย Cornell วิทยาเขตนครนิวยอร์ค กล่าวว่ายาใหม่นี้ได้ผลดีในการทดลองขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 โดยการลดปริมาณเชื้อไวรัส และเพิ่มจำนวนเซล CD4-T ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของระบบภูมิต้านทาน และต่อเชื้อไวรัส HIV ยามาราวิร็อคนี้ จะต้องใช้ควบคู่กับยาต้านเอดส์อื่นๆ โดยเฉพาะในคนที่ติดเชื้อไวรัสชนิดดื้อยาแบบอื่น
นายแพทย์ Laurence อธิบายว่ายานี้จะป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโรคเอดส์เข้าไปรวมตัวกับโมเลกุลของตัวรับเชื้อบนพื้นผิวเซล ในการทดลองกับคนมากกว่า 1,000 คน ยามาราวิร็อคปราบเชื้อไวรัสลงได้ถึง 45 เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยเทียบกับ 23 เปอร์เซนต์ของผู้ใช้ยาหลอก
มีความวิตกกันอยู่ว่า ยามาราวิร็อค อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน อย่างเกิดความเสียหายที่หัวใจและตับ หรือเป็นโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองเท่าที่ผ่านมายังไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
นายแพทย์ Laurence กล่าวชี้ว่า ตอนนี้หลายคนเห็นว่า HIV/AIDS เป็นโรคเรื้อรัง แต่เป็นโรคเรื้อรังที่เราสามารถติดตามต้านทานโรคได้ และยามาราวิร็อคจะเป็นเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งที่จะนำมาใช้ได้ แพทย์หวังกันว่า จะมียามาราวิร็อคออกมาใช้ เป็นยาต้านเอดส์ชนิดใหม่วางตลาดได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้บริษัทยาอื่นๆ รวมทั้ง Merch และ Johnson & Johnson ก็กำลังพัฒนายาต่อสู้กับโรคเอดส์ชนิดใหม่ๆ ด้วย
