ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาเขียว สามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้จริงหรือไม่?


นักวิจัยที่ชื่อ ศาสตราจารย์ไมค์ วิลเลี่ยมสัน แห่งมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ที่ประเทศอังกฤษกล่าวว่า ผลของการวิจัยแสดงว่าการดื่มชาเขียวสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และอาจสามารถช่วยชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวีได้

นักวิจัยพบสารประกอบชนิดหนึ่งคือ เอตีแกล โลคาเตชิน แกลเลจ หรือ EGCG ซึ่งป้องกันมิให้ไวรัสเอชไอวีผนึกตัวเข้ากับภูมิคุ้มกัน โดยเข้าไปผนึกตัวกับภูมิคุ้มกันเสียก่อน ทันทีที่สารประกอบ EGCG ผนึกตัวกับภูมิคุ้มกันแล้ว ก็ไม่มีที่ที่จะให้เชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าไปผนึกตัวแบบเดียวกัน อาจารย์ไมค์ วิลเลี่ยมสันกล่าวว่า การดื่มชาเขียวไม่ได้เป็นวิธีการบำบัดหรือเป็นวิธีการที่ปลอดภัยในการเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และแนะนำให้ดื่มชาเขียวควบกันไปกับการใช้ยาต่อต้านเอชไอวีต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี การศึกษาวิจัยนี้ยังอยู่ในระยะต้นๆ บรรณาธิการอาวุโสของเอดส์ แมพ เวบเซอร์วิส คีธ อัลคอม กล่าวว่าจำเป็นจะต้องมีการทดลองกับสัตว์ก่อนที่จะหาข้อสรุปเกี่ยวกับศักยภาพในด้านการติดเชื้อการป้องกันการติดเชื้อเชื้อไวรัสเอชไอวีของการดื่มชาเขียว เขากล่าวต่อไปว่างานวิจัยดังกล่าวมุ่งพิจารณาเรื่องความสามารถของสารเคมีในชาเขียว ในเรื่องการสกัดกั้นมิให้เชื้อไวรัสเอชไอวี ผนึกตัวเข้ากับเซลภูมิคุ้มกันของมนุษย์ในหลอดทดลอง คุณคีธ อัลคอมบอกว่าสารหลายอย่างที่แสดงว่าป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ในหลอดทดลองนั้น พอเอาเข้าจริงกลับมีประสิทธิ ภาพในการป้องกันเรื่องนั้นน้อย หรือป้องกันไม่ได้เลย เขาคิดว่ายังจะต้องทดลองกันไปอีกนาน กว่าที่ใครควรจะพึ่งชาเขียวในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

แต่คุณลิซ่า พาวเวอร์ ประธานฝ่ายนโยบายขององค์การการกุศลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชไอวี เชอร์เรนท์ ฮิคคินส์ ทรัสต์ กล่าวไว้ตอนนี้ว่า ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี อะไรก็ตามที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของคนเราได้ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี แต่ทว่าเราไม่อาจใช้ชาเขียวมาแทนที่การรักษาด้วยยาที่เหมาะสม และเทคนิคด้านการป้องกันต่างๆ ได้ ชาเขียวส่งผลกระทบที่มีลักษณะเสริมสร้างอย่างกว้างขวางต่ออาการของโรคต่างๆ รวมทั้งโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคสมองฝ่อด้วย

XS
SM
MD
LG