ตามบันทึกที่กระทรวงกลาโหมอเมริกานำออกเผยแพร่ นายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด รับว่าเป็นคนรับผิดชอบการโจมตีศูนย์การค้าโลกที่นครนิวยอร์คเมื่อปี พศ. 2536 การโจมตีชาวยิวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง การโจมตีเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งที่ประเทศเคนยาเมื่อปี พศ. 2545 การระเบิดไนท์คลับที่เกาะบาหลีในปีเดียวกัน ซึ่งทำให้คนตาย 2 ร้อยกว่าราย และการพยายามโจมตีเครื่องบินโดยสารของสหรัฐโดยเอาวัตถุระเบิดซุกไว้ในรองเท้า
เขายอมรับด้วยว่าทำการโจมตี หรือกะว่าจะโจมตีในอังกฤษ ตุรกี อิสราเอล ญี่ปุ่น อาเซอร์ไบจาน ปานามา ออสเตรเลีย และประเทศไทย และยังพยายามจะลอบปลงพระชนม์พระสันตปาปาจอห์นพอลที่ 2 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ บิล คลินตัน และประธานาธิบดีปากีสถาน เพอเวซ มูซาราฟ เขาอ้างด้วยว่ามีการวางแผนจะโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สถานเอกอัครราชทูตอเมริกัน และของอิสราเอลในอีกหลายประเทศด้วย
นายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ดกล่าวต่อศาลว่า เขาโดนทรมาณตอนที่ถูกควบคุมตัวไว้ตอนต้นๆ และแสดงความเสียใจเกี่ยวกับการที่คนสามพันกว่าคนต้องมาเสียชีวิตเมื่อมีการโจมตีในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน
นายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด อ้างว่าเขาเป็นผู้ตัดศีรษะของนักหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกัน แดเนียล เพิร์ลผู้โดนลักพาตัวไป และโดนสังหารที่นครการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อปี พศ. 2545 นอกจากนี้ ขากล่าวว่าเขาเป็นผู้บัญชาการด้านการปฏิบัติการทางทหารของข่ายงานก่อการร้ายอัลไคด้า สำหรับการปฏิบัติการในต่างประเทศทั้งหมดในโลก
ลือกันว่านายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด เป็นผู้นำอันดับสามรองจากนายอุสมา บินลาเดน และนายอายมาน อัลซาวาฮีรี ทางปากีสถาน เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับอาวุโสกล่าวว่า คำสารภาพของนายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด แสดงให้เห็นถึงผลงานอันยอดเยี่ยม และปากีสถานเป็นสื่อกลางในการจับกุมนายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด เมื่อปี พศ. 2546 นักวิเคราะห์และนายพลนอกราชการชาวปากีสถานกล่าวว่า คำสารภาพของนายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด เป็นหลักฐานที่แสดงว่าปากีสถานให้ความร่วมมือในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่มีสหรัฐเป็นแกนนำ
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนคลางแคลงใจเกี่ยวกับคำอ้างในบางเรื่องของนายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด และสงสัยว่าเขาอาจเพิ่มพูนบารมีของเขาในบางเรื่อง เมื่อปี พศ. 2548 คณะกรรมการที่สอบสวนเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของนายโมฮัมเหม็ดในบางครั้ง และระบุว่าเขาอยากเป็นผู้ก่อการร้ายกายสิทธิ์
อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แจ็ค คลูแนน ผู้เคยสังกัดในคณะต่อต้านผู้ก่อการร้ายอุสมา ยินลาเดน ในนครนิวยอร์คกล่าวว่า เรื่องต่างๆ ที่นายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ดอ้างเกี่ยวกับสถานะของการเป็นผู้นำของเขาในข่ายงานก่อการร้ายอัลไคด้าอาจเป็นความจริง แต่ก็กล่าวด้วยว่าวิธีการปฏิบัติต่อนายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด อาจกระทบถึงคำให้การของเขาได้
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า เวลาผ่านไป 4 ปีนับตั้งแต่นายคาลิด เช็ค โมฮัมเหม็ด โดนจับ ข่าวสารที่กลั่นกรองจากการซักปากคำนั้นล้าสมัยและมีคุณค่าน้อยมากในขณะนี้
