ในวันพุธ ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Federal Reserve - Fed) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี หลังจากที่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง 10 ครั้งติดต่อกันเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้นักลงทุนคือ เฟดส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
การตัดสินใจล่าสุดของเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไว้ที่ 5.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ชี้ให้เห็นว่านโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาสามารถกดเงินเฟ้อไว้ได้จริง แต่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังต้องการให้จับตาดูดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะว่ามีผลต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจอเมริกันอย่างไร
ถึงกระนั้น รายงานการคาดการณ์ของเฟดที่เผยแพร่ในวันพุธเช่นกัน ส่งสัญญาณว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในปีนี้ที่ราว 0.5% ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ขึ้นไปแตะระดับ 5.6% ก่อนสิ้นปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงข่าวว่า "เราเข้าใจดีถึงความยากลำบากที่เกิดจากเงินเฟ้อ และเรายังคงยึดมั่นในการทำให้เงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ 2% ตามเป้าหมาย" และว่า "กระบวนการกดเงินเฟ้อให้ต่ำลงนั้นจะเป็นไปอย่างช้า ๆ และใช้เวลา"
เหตุผลหนึ่งที่เชื่อว่าอาจทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้ง คือการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแรงขึ้นซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอีกได้ ดังนั้นจึงจำเป้นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยกดเงินเฟ้อให้ต่ำลงอีกครั้ง
โดยรายงานของเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอเมริกันจะขยายตัวที่ 1% ในปีนี้ เพิ่มจากระดับ 0.4% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคม นอกจากนี้ยังคาดด้วยว่าดัชนีเงินเฟ้อหลักจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.9% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ 3 เดือนก่อน และยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ที่เฟดวางไว้
- ที่มา: เอพี